เรียกได้ว่าออกมาแฉกันรัว ๆ รายวัน สำหรับเหล่าแกนนำม็อบ ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ หรือแม้กระทั่งคนที่คอยเชียร์คอยสนับสนุนกันออกมาฟาดฟันแฉความไม่โปร่งใสเรื่องเงินบริจาคในม็อบ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มเหล่านี้อยู่ในขณะนี้
โดยวานนี้ (10 มี.ค. 2564) ก็เรียกว่าเปิดหน้าแฉกันต่อแบบจัดหนักจัดเต็ม สำหรับ นายสมรนนท์ แย้มอุทัย หรือ แป้ง ศิลปินกราฟิตี แนวร่วมม็อบราษฎร ที่ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชื่อ Headache Stencil เขียนข้อความยาวเหยียดเปิดโปงพฤติกรรมขบวนการอมเงินบริจาคในม็อบ โดยมีนักต้มตุ๋นระดับชาติได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนสำคัญระดับแกนนำม็อบคือ ทราย-อินทิรา เจริญปุระ และทำการอมเงินบริจาคของประชาชน
และแน่นอนว่าเรื่องร้อนแรงขนาดนี้ ท่อน้ำเลี้ยงคนสำคัญอย่าง นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้เปิดบัญชีรับบริจาคเงินสนับสนุนม็อบราษฎร ก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก Headache Stencil ระบุยาวเหยียดเหมือนกันว่า
อ่านมาหลายวันละ เรื่องแอมมี่ขอไม่พูดแล้วกันนะ เอาเป็นว่ามึงรู้อยู่แก่ใจตัวเองดี ส่วนเรื่องนนท์ ขอพูดตรงนี้เลย นนท์เข้ามาในทีมได้ เพราะนนท์บริจาคสิ่งของให้กับม็อบเยอะมาก ๆ แล้วตอนแรกในช่วงตั้งไข่ ตนกับทรายก็งงในการหาของมาใช้งาน ซึ่งไม่รู้จะหาจากไหน ทรายก็เลยไปถามนนท์ว่าพอจะแนะนำได้มั้ย และทุกครั้งที่ไปถามหาของ นนท์จะอาสาจัดหาให้เอง และนนท์ก็หาได้ทุกอย่างตามที่กูกับทรายต้องการ
พอเวลาผ่านไป…นนท์กลายเป็นผู้ติดตามทรายไปโดยปริยาย มีหน้าที่จัดหา ดูแลสต็อกของ และขับรถให้ทราย แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตากูตลอด มักจะถามทรายอยู่เรื่อย ๆ ว่า คุณรู้จักนนท์ดีใช่มั้ย นนท์อะไรยังไงบ้าง ทรายก็จะตอบกลับมาทุกครั้งว่าเราต้องให้โอกาสคนวะคุณ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าคำว่าเราต้องให้โอกาสคนของทรายมันคืออะไร
ส่วนเรื่องเงิน ยืนยันตรงนี้ว่าทุกครั้งที่มีการให้จัดหาของ นนท์จะควักเงินตัวเองออกไปก่อนทุกครั้ง แล้วค่อยเอาบิลมาเบิกตามจริงเสมอ จนกระทั่งวันนึง ไมค์ (ภาณุพงศ์ จาดนอก) มาบอกว่า ป๊ารู้เรื่องพี่นนท์หรือยัง แล้วไมค์ก็ส่งข่าวที่ว่านนท์เคยถูกจับคดีฉ้อโกงมาให้ดู พอกูรู้เรื่อง ก็รีบขับรถไปหาทรายเพื่อคุยเรื่องนี้ทันที
คำตอบของทรายในวันนั้นคือ…ทรายทราบเรื่องนนท์มาสักพักแล้วบุ๊ง แต่ทรายมองว่าการให้โอกาสกัน มันคือหลักการที่เราเรียกร้องมาตลอดว่าคนต้องเท่ากันใช่มั้ยบุ๊ง คนมีคดีแล้วเค้าติดคุกชดใช้ความผิดไปแล้ว เค้าก็ควรได้ที่ยืนนะ ทรายพูดถูกมั้ยบุ๊ง แต่กูก็แย้งไปว่ามันก็ถูก แต่ขบวนเราตอนนี้ ทุกอย่างมันถูกจับตามอง การที่มีคนมีคดีมาไว้ข้างตัว ถ้าคนที่เกลียดเรารู้ เราจะถูกโจมตีในจุดนี้ได้
เรามีคนเหี้…ในสังคมที่พร้อมจะหยิบเรื่องเล็กมาทำให้ใหญ่และทำเรื่องใหญ่ให้โคตรใหญ่ได้นะทราย ทรายก็บอกว่าขอเวลาสักพัก จะขอคุยกับนนท์เป็นการส่วนตัวเอง แต่กูก็ไม่รอ ตัดสินใจโทรคุยกับนนท์ บอกนนท์ว่าขอให้นนท์ออกไป เพราะตอนนี้ทุกคนไม่สบายใจในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก
นนท์ก็บอกกุว่า… ผมเข้าใจครับพี่บุ๊ง ผมจะไปตามที่พี่บุ๊งบอกครับ เรื่องมันก็จบแบบนี้…
ปล. ส่วนตัสนี้ที่มึงเอานนท์มาเสียบ มาเกี่ยวข้องกับการโกงเงินม็อบ ก็ไม่เห็นจะมีหลักฐานอะไรเลย มีแต่ประวัติการเปลี่ยนชื่อ ซึ่งมันก็ไม่แปลก คนเคยมีคดีฉ้อโกงมาจริง ๆ ก็ต้องเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ออกมาฟาดฟันตอบโต้กันอย่างดุเดือด โยงเข้าเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนกลายเป็นทำนองที่ว่าตอนนี้แฉกันเอง จากเรื่องที่หลายคนไม่รู้ ก็ได้รู้ว่าพฤติกรรมของคนในม็อบนั้นเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องเงินบริจาคในม็อบที่คนเคยสงสัยเมื่อครั้งมีดราม่าแรก ๆ ตั้งแต่ทำการเปิดรับบริจาคก็เหมือนว่ากำลังจะถูกเปิดเผย
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน นายปกรณ์ เคยโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ตอนนี้พวก IO แม่งมาปั่นเรื่องรถห้องน้ำว่าหายไปไหน แล้วก็มีคนโง่ ๆ มาถามตามน้ำ ไอ้ควา.. รถส้วมก็จอดอยู่ที่จอดสิวะ ก็แค่ครั้งเดียวที่รถห้องน้ำไม่มีคือ วันที่มีม็อบหน้าสภา คนขับไม่กล้ามาเพราะโดนขู่หนักมาก แค่ครั้งเดียวที่รถส้วมหายไป แค่นี้ก็เป็นประเด็นให้พวก IO เอามาโจมตี แล้วพวกโง่ ๆ ก็มารับลูกต่อซะงั้น
โดย ได้มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวว่า “ผมไม่เคยสงสัยในตัวเฮียกับคุณทรายนะ เชื่อใจแบบสุดหัวใจ แต่ข้องใจเรื่องคนชื่อ “นนท์” มากครับว่าเข้ามาเกี่ยวข้องได้ยังไง ด้วยความเป็นห่วง ผมได้ยินชื่อนี้มานานมากแล้วเรื่องฉ้อโกง ส่วนเรื่องอื่นผมไม่สนใจเลย
ทั้งนี้ นายปกรณ์ ตอบว่า “เรื่องนนท์นี่ขอจัดการกันภายในนะครับ ทางเรารับรู้ปัญหากันมาระยะนึงแล้ว”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนชื่อ นนท์ ปราบจะบก หรือ นนท์ ที่กำลังเป็นที่สนใจจากคนในสังคม และกลุ่มมวลชนม็อบในขณะนี้ มีรายงานว่า ได้เปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ปัจจุบันชื่อ กฤติเดช กรองทอง ได้ถูกจับตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 334/2560 ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ และฉ้อโกง เมื่อเดือนเมษายน 2560 จากการหลอกขายแพกเกจตั๋วเครื่องบินนำเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากจ่ายเงิน แต่เมื่อถึงเวลากำหนดเดินทาง กลับไม่สามารถขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวได้ โดยนายนนท์ให้การรับสารภาพสาเหตุเพราะเป็นคนชอบเที่ยว ใช้จ่ายเงินเกินตัว อีกทั้งยังไม่มีอาชีพที่แน่นอน จึงใช้วิธีการดังกล่าวหลอกผู้อื่นเพื่อหาเงินใช้