กลายเป็นดราม่าพอสมควรภายหลังจากศาลไม่ให้ประกัน3แกนนำคนสำคัญ ทั้งหมดต้องกลับไปใช้ชีวิตในคุก ซึ่งมีบางแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับการหลงเดินทางผิดของบรรดาเยาวชน โดยมีความผิดที่รุนแรง จากการชักใยของผู้ใหญ่บางคนนั่นเอง???
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีการยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร สำนวนที่สอง กรณี 18 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ร่วมกันชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง ซึ่งมีการปักหมุดคณะราษฎร 2563 ด้วย
โดยพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยจำนวน 18 คน เรียงตามลำดับแล้ว ประกอบด้วย 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ 3.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 4.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ 5.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือแอม
6.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท 7.นายธนชัย เอื้อฤาชา หรือหอย 8.นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน 9.น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก 10.นายธานี สะสม 11.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 12.นายภัทรพงศ์ น้อยผาง 13.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ 14.นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ 15.นายสิทธิ์ทัศน์ จินดารัตน์ 16.นายณัทพัช อัคฮาด 17.นายธนพ อัมพะวัต 18.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง
ขณะที่อัยการได้ยื่นฟ้องพวกจำเลยทั้ง 18 คน ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
“โดยในส่วนของ น.ส.ปนัสยา, นายภาณุพงศ์ และนายจตุภัทร์ เพิ่มความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ป.อาญา ม.112 ด้วย รวมทั้งหมด 11 ข้อหา”
ต่อมาศาลได้พิจารณาแล้วรับคำฟ้องไว้ในสารบบเป็นคดีหมายเลขดำ อ539/2564 จากนั้นศาลสอบคำให้การพวกจำเลยทั้งหมด รวมทั้งนายไชยอมร หรือแอมมี่ จำเลยที่ 13 ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี เพื่อรักษาอาการป่วยโรคตา อยู่ระหว่างฝากขังคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ศาลได้สอบคำให้การผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานทั้งสองฝ่ายต่อไปในวันที่ 15 มี.ค. นี้ เวลา 9.00 น. อย่างไรก็ตามจากนั้น ศาลได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว น.ส.ปนัสยา, นายภาณุพงศ์ และนายจตุภัทร์ ทั้งหมดจึงถูกนำตัวไปเรือนจำทันที
ล่าสุดวันนี้ 9 มีนาคม 2564 น.ส. สุวรรณา ตาลเหล็ก หรือ “ลูกตาล” สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่ได้รับการประกันตัว คดีอาญามาตรา 116 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suwanna Tallek ถึงคดีและเหตุการณ์ที่ศาลด้วยว่า
“มันเจ็บนะ เพราะฉันอยู่กับน้องในห้องเวรชี้ที่ศาลอาญาหลายชั่วโมง ฉันนั่งมองไมค์นอนเหยียดตัวยาวหลับอยู่บนเก้าอี้
ฉันเห็นรุ้งนอนเหยียดตัวยาวนอนกับพื้น หัวหนุนตักเพื่อน
ฉันเห็นไผ่นอนเหยียดยาวคว่ำหน้ากับพื้น
ฉันเห็นรุ้งไปนั่งกับเพื่อนหน้าตากังวล เหมือนกำลังจะร้องไห้
ฉันเห็นไผ่ถอดสร้อยจากคอตัวเองเอาไปใส่คอให้แม่พริม
ฉันไม่เห็นไมค์ ไมค์หายไปไหน ฉันเดาว่าไมค์ไปห้องน้ำ
สักพักฉันไม่เห็นรุ้ง ไมค์ ไผ่ เขาหายไปไหน ฉันเข้าใจว่าไปสูบบุหรี่ที่ห้องน้ำ หรือไม่ก็ไปถ่ายรูปพิมพ์นิ้วมือ
ฉันเห็นทนายเดินเข้ามาให้พวกเราเซ็นชื่อในหนังสือยื่นประกัน ฉันจึงรู้ว่า จนท.เอาตัวรุ้ง ไผ่ ไมค์ ออกไปแล้ว และไม่ใช่แค่ฉันและน้อง ๆ อีกหลายคนที่เพิ่งรู้ว่าทั้งสามคนถูกนำตัวออกไปแล้ว ซึ่งทนายเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน”
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวของรุ้ง มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกับการเข้ามากระทำผิดครั้งนี้ เพราะหากย้อนไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์ด้านวิชาการ สถาบันทิศทางไทย และอดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ถึง 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ของ กลุ่มราษฎร ที่มี “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” อยู่เบื้องหลัง โดยระบุว่า..
“เรื่องใหญ่ที่เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์คือ รุ้ง สารภาพเองว่าเพิ่งรับโพยเรื่องข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อของอาจารย์สมศักดิ์เจียม ก่อนขึ้นพูดบนเวทีธรรมศาสตร์รังสิตในค่ำวันที่ 10 สิงหาคม 2020 เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
เรียกว่า ตกกระไดพลอยโจนโดยเต็มใจ
ผมมีคำถามที่อยากทราบคำตอบจากรุ้งนะว่า … ใครคือคนบงการที่อยู่เบื้องหลังยื่นโพยยัดใส่มือรุ้งให้ออกไปเรียกร้องข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ
เพราะนี่คือ ไอ้โม่งตัวจริง ซึ่งผมมองว่ามีหลายคนสุมหัวกันใช้เด็กบังหน้า”
นั่นคือเรื่องราวของแกนนำม็อบ ที่วันนี้ต่างทยอยเดินเข้าเรือนจำ ด้วยความผิดที่ได้ก่อขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถูกจับ ได้ประกัน ปล่อยตัวออกมาทุกคนก็ยังทำความผิดเดิมซ้ำๆหลายครั้ง และนี่คือ ความยุติธรรมที่เกิดขึ้น แม้ฝ่ายผู้กระทำผิดพยายามคัดค้าน แต่ผลแห่งกรรมและการกระทำด้วยตัวเองล้วนๆ!!!