คนร่วมชุมนุมให้เอาสติ-สมองมาด้วย สมบัติ ทองย้อย ฟัน ทีมการ์ดสันติวิธี แค่สร้างภาพ แต่แท้จริงป่วนให้เกิดรุนแรง

2328

นายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบราษฎร และการ์ดเสื้อแดง เปิดเผยว่า “ทีมการ์ดสันติวิธี” ที่ตั้งใหม่แค่สร้างภาพเพื่อลดความรุนแรง ชี้ม็อบพรุ่งนี้ (6 มีนาคม 2564) มีโอกาสเกิดความรุนแรงสูง เพราะไม่มีแกนนำ เตือนผู้เข้าร่วมชุมนุมระวังตัวอาจจะเจ็บฟรี ด่าเจ็บการทำม็อบต้องเอาสมองมาจากบ้านด้วยทุกครั้ง

โดยนายสมบัติ ได้เปิดเผยกับทีมข่าว TOP NEWS ถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (6 มีนาคม 2564) ระบุว่า ได้เห็น เพจเฟซบุ๊ก ทีมสันติวิธี PacifistTeam ก่อตั้งโดย เอ็ม ปลดแอก โพสต์ข้อความแล้ว โดยส่วนตัวดีใจที่ยังมีคนคิดจะจัดการชุมนุมอย่างสันติวิธี แต่ในความเป็นจริงแล้วเชื่อว่าเป็นไปได้ยากมาก

เพราะการชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมามักจะมีการยั่วยุเจ้าหน้าที่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ส่วนตัวมองว่าเป็นการสร้างภาพเอาทฤษฎีมาวางให้ดูสวยหรูมากกว่า โดยมีเป้าหมายให้ภาพที่ออกมาสู่ทั้งผู้ที่ดูการชุมนุม เจ้าหน้าที่รัฐมีความสงบเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมที่เกิดขึ้นและเกิดความรุนแรงหลายครั้ง เกิดจากการไม่มีแกนนำ มันขัดแย้งกันเองระหว่างการกระทำกับความคิด ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลเขารู้ และในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อยากจะฝากเตือนน้อง ๆ ที่เข้าร่วมชุมนุมให้มีความระมัดระวังตัวให้มาก เพราะจู่ ๆ อาจจะมีหิน หรือข้าวของอื่น ๆ หล่นมาโดนจนได้รับบาดเจ็บก็ได้ ซึ่งทุกวันนี้การชุมนุมของทุกกลุ่มถูกมองจากเทคโนโลยีทุกซอกทุกมุม มีกล้อง มีโทรศัพท์ สามารถเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้อย่างคมชัด ฉะนั้นจะทำอะไรให้น้อง ๆ ตรึกตรองให้เยอะ ให้ออกมาชุมนุมพร้อมสมอง อย่าเอามาแต่กะโหลกแล้ววางสมองไว้หน้าบ้าน

ไม่เพียงเท่านั้นนายสมบัติบอกต่ออีกว่า จากประสบการณ์การจัดการม็อบมาหลายครั้งทำให้รู้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาแทรกซึมเป็นจำนวนมาก การเคลื่อนไหวใด ๆ ของกลุ่มม็อบจึงไม่รอดพ้นสายตาได้ ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมักจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จำนนด้วยหลักฐาน ทั้งคลิป ทั้งเสียงทั้งภาพนิ่ง ฉะนั้นในการรวมตัวกันในวันพรุ่งนี้จึงอยากให้ผู้เข้าร่วมใช้สติและอย่าลืมเอาสมองใส่หัวมาด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสมบัติยังได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กด้วยว่า ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ไม่ว่าลูกจะเลวร้ายเพียงใด พ่อแม่ก็รักลูกเสมอ ยามพ่อแม่แก่ชรา ลูกก็ต้องคอยดูแลพ่อแม่เพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ถ้าการต่อสู้ของเราบนถนนปชต. ต้องทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อน หาเงินประกันตัว เดินทางส่งข้าวส่งน้ำ ยามอยู่ในห้องขัง มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ แทนที่เราจะมาดูแลท่านยามท่านแก่ชรา ใช่ครับพ่อแม่อาจไม่กล้าขัดใจในแนวทางการต่อสู้ของลูก แต่มั่นใจลึก ๆ พ่อแม่คงไม่อยากเห็นลูกต้องถูกจับกุมคุมขังอย่างแน่นอน เพราะนั่นมันคือความเจ็บปวดที่แสนสาหัสของคนเป็นพ่อคนแม่คน

พ่อแม่ยังอยากนั่งกินข้าวกับลูกอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันอบอุ่น ไม่ใช่นั่งกินข้าวกับน้ำตาทุกวันเพราะต่างคิดถึงกันและกัน นั่นคือสู้ยังไงให้ได้อยู่สู้ ได้สู้ต่อ สู้ข้างนอกดีกว่าสู้ข้างใน เพราะสู้ข้างนอกคุณเหนื่อยแค่ไหน คุณก็ยังได้รับไออุ่นจากการสวมกอดจากพ่อและแม่ ที่รักคุณมากที่สุดในโลก ยามที่คุณกลับถึงบ้าน จงสู้อย่างใช้สติ ถ้า ไม่เพื่อใครก็เพื่อพ่อและแม่ ที่ยังอยากเห็นคุณสู้ตามความฝันและอุดมการณ์ของคุณอยู่ข้างนอกอย่างยาวนาน #จงสู้อย่างมีสติ #จงสู้แล้วให้นึกถึงคนที่รอคุณกลับบ้านอย่างปลอดภัย