จากกรณีที่มีผู้กระทำความผิดอุกอาจ บุกเผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำคลองเปรม โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 วันเพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด สู่การออกหมายจับ นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ พร้อมพวกอีก 2 คน
ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังร่วมกันก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม
ต่อมาได้มีรายงานว่า นายไชยอมร หรือ แอมมี่ ได้ถูกควบคุมตัวขณะกำลังจะหลบหนีออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
โดยในคืนวันที่ 2 มี.ค.64 หลังจากที่มีการบุกจับ “แอมมี่” ทางด้านเพจ “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” ก็ไม่รอช้าที่จะเดินเกมส์ โดยให้ข้อมูลที่ค่อนข้างมั่วกับกลุ่มลูกก๊วน โดยโพสสต์ชี้นำว่า การที่ “แอมมี่” ถูกดำเนินคดีร้ายแรงเนื่องมาจากว่า เป็นความผิดใน ม.112 เพียงคดีเดียว โดยไม่พูดถึงคดีวางเพลิงในสถานที่ราชการในยามวิกาล ซึ่งเป็นโทษสูงสุดของแอมมี่ โดยทางปลดแอก ได้โพสต์ข้อความดังต่อไปนี้
วันนี้ศาลได้ออกหมายจับแอมมี่ The Bottom Blues พร้อมพวกรวม 3 คน ในฐานความผิดพ.ร.บคอม ม.112 และอื่นๆ จากเหตุวางเพลิงรูปที่หน้าเรือนจำคลองเปรม โดยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย กล่าวว่า “คดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ เรื่องนี้ยอมไม่ได้ ต้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด”
แต่จนถึงตอนนี้ เรายังไม่เห็นหลักฐานแน่ชัดว่าแอมมี่เป็นคนเผา หรือต่อให้เผาจริง ในประเทศที่เชื่อว่าคนเท่ากันและเป็นประชาธิปไตย การแสดงออกซึ่งความไม่พึงพอใจเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ รัฐควรปกป้องความเป็นมนุษย์มิใช่ปกป้องรูปถ่าย มาตรา 112 มีปัญหาในตัวของมันเอง ทั้งการที่ปล่อยให้ใครแจ้งก็ได้ อัตราโทษที่สูงเกินความเป็นจริง และการทำให้กษัตริย์เป็นเหมือนสมมุติเทพที่ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ หากเชื่อว่าคนเท่ากันจริง ทำไมสถาบันกษัตริย์จึงไม่สามารถถูกวิจารณ์เฉกเช่นเรา ทำไมจึงไม่สามารถถูกวิพากษ์เพื่อให้สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่
นี่เป็นอีกครั้งที่รัฐใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชน ใช้ม.112 ปิดปากไม่ให้เรากล้าคิดกล้าพูด เวลานี้ยังคงมีประชาชนอีกหลายคนที่โดนดำเนินคดีม.112 เช่น คุณอัญชัน ปรีเลิศ ที่เพียงแชร์จากคลิปยูทูป แต่ถูกตัดสินให้จำคุกถึง 87 ปี ในเวลานี้เพียง #Saveแอมมี่ อาจไม่พอ การจำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรต้องเกิดขึ้น
ซึ่งแท้จริงแล้วทางด้านของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ซึ่งความเป็นจริงได้อย่างชัดเจนว่า แท้ที่จริงแล้วนั้น “แอมมี่” มีโทษสูงเนื่องจาก วางเพลิงสถานที่ราชการ ม.218 ซึ่งเรียกได้ว่าหนักกว่า ม.112 หลายเท่าตัว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“วางเพลิงสถานที่ราชการ โทษถึงประหารชีวิต ม.218 หนักกว่า ม.112 มาก แอมมี่อาจจะต้องโทษถึงประหารชีวิตได้นะครับ
ม.112 นี่โทษสูงสุดแค่จำคุก 15 ปี ท่านอยากให้แอมมี่ รับโทษตามมาตรา 218 หรือ 112 หรือทั้งสองมาตราครับ กดโหวตได้เลยครับ”
อย่างไรก็ตามทางด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ยังเปิดเผยถึงคดีนี้ด้วยว่า “คดีนี้ถ้าพยานหลักฐานถึงก็ดำเนินคดีหมด คนร้ายมีไม่น้อยกว่า 1 คน ขณะนี้จับกุมตัวได้ 1 คน จะจับกุมใครต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ไม่มีเหตุออกหมายจับก็ออกหมายเรียก”
เมื่อถามว่า ผู้ที่เข้าร่วมก่อเหตุเป็นดาราที่ร่วมเคลื่อนไหวในม็อบร่วมด้วยหรือไม่ หรืออยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ผบช.น. ก็ได้บอกว่า เบื้องต้นยืนยันว่านายไชยอมร เป็นคนร้ายในคดีนี้ แต่เขายังไม่รับว่าทำแต่ตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐาน เขายังไม่ให้การอยู่ระหว่างการควบคุมตัวที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากหลังจับกุมตัวเขามีอาการบาดเจ็บจึงนำตัวส่ง รพ.ราชธานี หลังจากนั้นควบคุมตัวมาที่ รพ.ตำรวจ ยังไม่มีการให้การใดๆ ถามอีกว่าคดีนี้เชื่อมโยงกับคดี 112 อย่างไร ผบช.น.ตอบว่า ขออนุญาตเรื่องนี้อยู่ในสำนวน ถ้าผิดอย่างไรก็ดำเนินการก่อน เบื้องต้นวางเพลิงเผาทรัพย์และอาจพิจารณาตามาตรา 112
