ทรัมป์บีบรร.เปิดหลักสูตร “รักชาติ”ให้เยาวชน?!? จวกรณรงค์ต้านเหยียดผิว ซ้ายจัดทำลายเอกภาพอเมริกันชน!

1525

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯจะลงนามคำสั่งพิเศษ สั่งให้โรงเรียนเปิดหลักสูตรการสอนบทเรียนเน้นความรักชาติ (patriotic teachings) แก่เยาวชนอเมริกัน พร้อมทั้งโจมตีการปลูกฝังแนวคิดต่อต้านเหยียดผิวจากโครงการ 1619 ของวงการสื่อว่า เป็นสิ่งที่จะทำลายความเป็นเอกภาพของชาติ ทำลายความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนอเมริกัน  ผู้นำBLM มองว่าการพูดถึงการเหยียดผิวคือการพูดถึงความจริงของสังคมอเมริกัน ที่ไม่ยอมรับประวัติศาสตร์การล่าอณานิคมกดขี่ข่มเหงชาติพันธ์อื่น ตลอดจนไม่ยอมรับความร้ายกาจที่ยังหลงเหลืออยู่ในสังคมอเมริกัน ใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์ยิ่งทุรนทุรายทำทุกวิถีทาง

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “ทางเดียวที่จะสร้างเอกภาพภายในชาติได้ก็คือ การส่งเสริมอัตลักษณ์ร่วมของความเป็นอเมริกัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องขอให้โรงเรียนต่างๆ กลับมาเน้นบทเรียนที่ส่งเสริมความรักชาติเป็นการด่วน” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า การประชุมทำเนียบขาวว่าด้วยประวัติศาสตร์อเมริกัน (White House Conference on American History)

ทรัมป์ เรียกร้องให้สถานศึกษา “จัดทำหลักสูตรส่งเสริมความเป็นอเมริกันที่ยกย่องข้อเท็จจริง ลูกหลานเราจะต้องถูกสอนให้รักอเมริกาด้วยหัวใจและจิตวิญญาณของพวกเขา” ทั้งนี้ให้บรรจุลงในหลักสูตรชื่อ “คณะกรรมการ 1776” 

ทรัมป์ขู่จะตัดงบประมาณ โรงเรียนแคลิฟอร์เนีย หากยังคงสอนหลักสูตร “โครงการ 1691” เป็นโครงการที่นสพ.นิวยอร์กไทมส์ริเริ่มปี 2019 เผยแพร่เรื่องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อณานิคม ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่กระทำต่อคนอาฟริกัน ครั้งเริ่มสร้างชาติ และการมีทาสผิวดำและการเหยียดเชื้อชาติ

ทรัมป์กล่าวโจมตีว่า “โครงการ 1691-บิดเบือนการสร้างชาติอเมริกาว่าเกิดขึ้นบน การกดขี่ ทำร้ายไม่ใช้ด้วยเสรีภาพ นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด สถาบันแห่งอเมริกาก่อเกิดจากการปลดปล่อยการค้าทาส การสร้างความมั่นคงของสิทธิพลเมือง ต่อต้านเผด็จการฟาสซิส และคอมมิวนิสต์และสร้างสรรค์สังคมแห่งความเท่าเทียม มีเสรีภาพ และมั่งคั่งต่างหาก”

ในช่วง 6 สัปดาห์สุดท้ายถึงก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ พยายามทำทุกวิถีทางที่จะปลุกเร้าผู้สนับสนุน ที่เป็นกลุ่มขวาสุดโต่งของตนให้ลุกขึ้นมาต่อต้านสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็น “แผนของพวกซ้ายจัด” ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแบบอเมริกัน พุ่งเป้าโจมตีทฤษฎีชาติพันธุ์แนววิพากษ์ (critical race theory), การตระหนักถึงความอ่อนไหวทางด้านเชื้อชาติ (racial sensitivity) ตลอดจนความพยายามที่จะตรวจสอบประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ด้วยการชูรากเหง้าของลัทธิเหยียดชาวแอฟริกันอเมริกัน

สหรัฐฯ เผชิญเหตุประท้วงและการก่อจลาจลครั้งใหญ่ในหลายเมือง ซึ่งมีต้นตอจากการที่ตำรวจผิวขาวใช้กำลังเกินกว่าเหตุและสังหารผู้ต้องสงสัยที่เป็นชายผิวสีระหว่างการจับกุม และสิ่งนี้เกิดซ้ำซากในชีวิตของคนอเมริกันผิวสี  เมื่อถึงจุดอิ่มตัว ฝีแห่งความเจ็บปวดนี้จึงแตกกลายเป็นปรากฏการณ์ Black Live’s Matter ทั่วสหรัฐฯ ทั่วโลก

นักเคลื่อนไหวมองว่า การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นสะท้อนความล้มเหลวของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการทำความเข้าใจกับปัญหาเหยียดผิวสีอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา เก็บซ่อนปัญหาไว้ใต้พรม

“เรามาที่นี่ในวันนี้เพื่อประกาศว่า เราจะไม่ยอมสยบต่อการใช้อำนาจบาตรใหญ่ เราจะทวงประวัติศาสตร์ของเราคืน และประเทศของเรานั้นเป็นของพลเมืองทุกเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา และความเชื่อ” ทรัมป์ กล่าว

“การก่อจลาจลและความวุ่นวายโดยพวกฝ่ายซ้ายเป็นผลโดยตรงมาจากการสั่งสอนแนวคิดเอียงซ้ายในโรงเรียนของเรามานานนับสิบๆ ปี”

ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุอีกว่า การตีความประวัติศาสตร์แบบพวกนิยมลัทธิแก้ (revisionist) และการปลูกฝังเรื่องความอ่อนไหวทางเชื้อชาติ “คือการโฆษณาชวนเชื่อและค่านิยมยาพิษ หากไม่ถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปแล้ว จะละลายความผูกพันทางสังคมที่เชื่อมโยงเราไว้ด้วยกัน และทำลายประเทศชาติในที่สุด”

นางBetsy DeVos-เลขาธิการด้านการศึกษาของรัฐบาล กล่าวว่า “เรื่องหลักสูตร ควรให้สิทธิรัฐบาลและท้องถิ่นคัดสรรที่จะจัด โดยเราควรจัดหลักสูตรที่ซื่อสัตย์และให้เกียรติแก่ประวัติศาสตร์ของเราและต่อยอดเสริมสร้างในทางบวกต่อไป”