เปิดเหตุผลทำไม “ชุมพล”โดนโทษหนักสุด 9 ปี 24 เดือน -ส่องที่มาโทษแม้เป็นแกนนำหลักแต่รอลงอาญา
จากกรณีศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีกลุ่ม กปปส. ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.กับพวกรวม 39 คน เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ขณะที่นายสุเทพกับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวทุกคน ศาลอาญาสืบพยานต่อเนื่องทั้ง 2 ฝ่าย จนแล้วเสร็จ
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายสุเทพ 5 ปี และพวกรวม 26 คน โดยมีโทษจำคุกแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 9 ปี 24 เดือน ส่วนข้อหาความผิดฐานกบฎและก่อการร้ายยกฟ้อง เพราะพฤติการณ์ชุมนุมไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร จึงไม่เป็นความผิดตามฐานดังกล่าว ส่วนข้อหาอื่นพิพากษาจำคุก
สำหรับจำเลยทั้ง 39 คน มีคำพิพากษา ดังนี้
1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำคุก 5 ปี
2.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ยกฟ้อง
3.นายชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน
4.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี
5.นายอิสสระ สมชัย จำคุก 7 ปี 16 เดือน
6.นายวิทยา แก้วภราดัย จำคุก 1 ปี เเละปรับ 13,333 รอลงอาญา 2 ปี
7.นายถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี
8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน
9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ จำคุก 1 ปีปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก จำคุก 1 ปีปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
11.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ตาย
12.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
13.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ ยกฟ้อง
14.นายถนอม อ่อนเกตุพล จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี
15. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำคุก 3 ปี
16. พระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ จำคุก 4 ปี 8 เดือน
17.นายสาธิต เซกัลป์ จำคุก 2 ปี ปรับ 26,666 รอลงอาญา 2 ปี
18.นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ยกฟ้อง
19. พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี จำคุก 1 ปี ปรับ13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
20. พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
21. นายแก้วสรร อติโพธิ ยกฟ้อง
22.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยกฟ้อง
23.นายถวิล เปลี่ยนศรี ยกฟ้อง
24. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ จำคุก 4 ปี 16 เดือน
25. นายมั่นแม่น กะการดี จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
26.นายคมสัน ทองศิริ จำคุก 2 ปี
27.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ยกฟ้อง
28.นายพิภพ ธงไชย ยกฟ้อง
29.นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำคุก 2 ปี
30.นายสุริยะใส กตะศิลา จำคุก 2 ปี
31. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ยกฟ้อง
32.พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์ ยกฟ้อง
33.นายสำราญ รอดเพชร จำคุก 2 ปี 16 เดือน
34. อมร อมรรัตนานนท์ จำคุก 20 เดือน
35.นายพิเชษฐ พัฒนโชติ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี
36. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ยกฟ้อง
37.นายกิตติชัย ใสสะอาด จำคุก 4 เดือน ปรับ 6,666 รอลงอาญา 2 ปี
38.นางทยา ทีปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 26,666 รอลงอาญา 2 ปี
39.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ยกฟ้อง
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด นายชุมพล จุลใส จำเลยที่ 3 ที่โดนโทษหนักที่สุด คือ จำคุก 9 ปี 24 เดือน โดยเอกสารดังกล่าวมีการแจกแจงฐานความผิดดังนี้
ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ
ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้ใดผู้หนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก
ฐานร่วมกันบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นในเวลากลางคืน และ ฐานทำให้เสียทรัพย์
ฐานร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
ฐานร่วมกันกระทำการใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อมิให้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิได้
ฐานร่วมกันยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล
เมื่อรวมทุกกระทงแล้ว นายชุมพล จุลใส คงจำคุก 9 ปี 24 เดือน
สำหรับนายชุมพล ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ.2556–2557 นายชุมพลได้ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยเป็นหนึ่งใน 9 แกนนำ กปปส. ร่วมกับคนรุ่นอายุเดียวกัน คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายสกลธี ภัททิยกุล ซึ่งนายชุมพลยอมรับว่าตนเป็นผู้ที่ใจร้อนมุทะลุมาก เขาได้เคยกล่าวว่า เขาขอเป็นเห็บหมาดีกว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ หลังจากที่ได้รู้ผลตัดสินก็ได้เปิดใจว่า “ทำดีที่สุดแล้วครับ น้อมรับคำพิพากษา สู้เพื่อแผ่นดินไทย”
สำหรับจำเลยที่ศาลพิพากษาให้ยกฟ้อง 12 คน ได้แก่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ นางสาวรังสิมา รอดรัศมี นายแก้วสรร อติโพธิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายถวิล เปลี่ยนศรี พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ นายพิภพ ธงไชย นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
จำเลยทั้ง 12 คนที่รอลงอาญานั้น ได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายถนอม อ่อนเกตุพล นายสาธิต เซกัลป์ พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ นายมั่นแม่น กะการดี นายพิเชษฐ พัฒนโชติ นายกิตติชัย ใสสะอาด นางทยา ทีปสุวรรณ
เพราะบางคนเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุมเท่านั้น เเละเเม้บางคนจะเป็นเเกนนำในการชุมนุมด้วยก็ตาม เเต่ความผิดที่จำเลยเเต่ละคนกระทำนั้นน้อยกว่าจำเลยอื่นอีกทั่วไม่ปรากฎว่ามีพฤติการณ์อุกอาจหรือรุนเเรงจากการชุมนุมประกอบกับไม่ปรากฎว่าจำเลยดังกล่าวเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยดังกล่าวกลับตัวเป็นพลเมืองดี
อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาล ก็มีจำเลยที่ถูกเพิกถอนสิทธิการเมือง 5 ปี ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. เนื่องจากศาลอาญาสั่งเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของพวกเขาเป็นเวลา 5 ปี และมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเมือง ของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ, ร.ต. แซมดิน เลิศบุศย์, นายสำราญ รอดเพชร และนางทยา ทีปสุวรรณ ทำให้เธอไม่สามารถลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
ทั้งนี้ หลังจากมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ 3 จำเลย ซึ่งเป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกอบด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี