จตุพรจี้แกนนำแจงไปลานพระรูปฯจริงหรือไม่? ชี้เรื่องใหญ่ ทำม็อบจบสั้น

3875

จากที่จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.ย.จะจบหรือไม่นั้น อยู่ที่ฝ่ายรัฐกับผู้ชุมนุม ความจริงใจต่อกันในการเคลื่อนขบวนไปสถานที่ใด อย่างตรงไปตรงมา และไม่เกิดการปะทะตามเส้นทางการเดินนั้น

ทั้งนี้ การชุมนุมแต่ละเหตุการณ์นั้น ผู้ชุมนุมล้วนมีเป้าหมายถึงชัยชนะเป็นความหวัง เช่นกันกับการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นคนละกลุ่มกับเยาวชนปลดแอก ที่จัดชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 2 จุดยืน 1 ความฝัน โดยแตกต่างจากแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ที่ยึดการปฏิรูป 10 ข้อ

ส่วนการจัดชุมนุมในธรรมศาสตร์นั้น ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า มหาวิทยาลัยไม่ให้สถานที่ชุมนุม การบุกหรือตัดโซ่เข้าไปเป็นอีกเรื่องหนึ่งของผู้ชุมนุม นอกจากนี้ สนามหลวงยังชุมนุมทางการเมืองไม่ได้ ดังนั้น เหลือเพียงทางเลือกให้ผู้ชุมนุมต้องเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่ประสงค์ให้เกิดเรื่องแล้ว ควรสั่งการธรรมศาสตร์เปิดพื้นที่ให้ชุมนุม อีกอย่างธรรมศาสตร์ประกาศมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว กลับไม่มีความพยายามพูดคุยทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างอาจารย์กับศิษย์ เพื่อลดความกดดันตั้งแต่เริ่มต้น

“ความเครียดของการชุมนุม จะทำให้เกิดแรงกระตุ้น เกิดความรู้สึกฮึกเหิม ถ้าไม่เปิดประตู ก็ต้องพังเข้าไป ดังนั้น ควรเจรจากันฐานะอาจารย์-ลูกศิษย์ ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ โดยยิ่งปิดประตูเท่ากับผลักให้เขาไปทำเนียบเร็วขึ้น”

นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่าบทเรียนการชุมนุมนั้น ถ้าไม่ต้องการให้เกิดเรื่อง ก็ไม่เกิดเรื่อง เมื่อฝ่ายผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ต้องประสานงานดูแลความปลอดภัยให้ผู้มาชุมนุม รวมทั้งควรชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเปิดเผย จริงใจ ตรงไปตรงมา ครบถ้วนในการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่แห่งใด

“โดยเฉพาะผู้ชุมนุมควรแถลงข่าว หรือชี้แจงกรณีมี ส.ว. รายหนึ่งให้ข่าวว่า ผู้ชุมนุมจงใจจะเคลื่อนขบวนไปยังลานอนุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 โดยออกข่าวว่า จะไปทำเนียบรัฐบาลเป็นข้อมูลลวง ดังนั้น ถ้าข้อความจาก ส.ว.คนนี้ไม่จริง ผู้จัดชุมนุมต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการเผยแพร่ของวุฒิสมาชิกคนนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีความมละเอียดอ่อน ถ้าคุมไม่ได้ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก

ความละเอียดอ่อนนั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นหนังคนละม้วน ดังนั้น แกนนำผู้ชุมนุม เมื่อเห็นข้อความดังกล่าวแล้ว ยังไม่ชี้แจงข้อกล่าวหา มองว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่จริงต้องรีบปฏิเสธ และบอกสาธารณชนด้วยว่า มีเส้นทางการเคลื่อนขบวนไปที่ไหนให้ชัดเจนถ้าไม่มีแล้ว สิ่งได้เปรียบจะเป็นการเสียเปรียบ ดังนั้น การเรียกร้อง 3 ข้อ 2 จุดยืน 1 ความฝัน ซึ่งมีเสียงสนับสนุนมาก ผู้ชุมนุมควรยึดกุมเป้าหมายให้มั่นคง และต้องรีบชี้แจงข่าวตอบโต้ สว.คนที่ออกมาบอกเช่นนั้น

ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญคือ เมื่อมีข้อกล่าวหาใหญ่โตขึ้น ถ้าการจัดการของผู้ชุมนุมไม่ประสานกับเจ้าหน้าที่แล้ว เชื่อว่าการชุมนุมจะจบลงแบบสั้นๆ ก็ได้ เพราะการชุมนุมมีเรื่องแทรกซ้อนได้ทุกที ดังนั้น ต้องไม่ทำให้การชุมนุมเป็นเรื่องลึกลับ ปกปิดไว้ แต่จะนำไปสู่เหตุการณ์แทรกซ้อนยิ่งขึ้นดังนั้น ทุกชีวิตที่เข้ามาชุมนุมต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ เมื่อคนหนุ่มสาวต่อสู้จะเป็นแรงกระเพื่อมไปถึงผู้ปกครอง พ่อ-แม่ ถ้าเกิดเหตุรุนแรงกับผู้ชุมนุมแล้ว สุดท้ายพ่อ-แม่ต้องออกมาช่วย แล้วรัฐจะรับมือไม่ไหว จึงเรียกร้องให้ลดปัญหา

ข้อความ ส.ว.บอกว่าจะไปลานพระบรมรูปทรงม้า ร.5 นั้น ผู้ชุมนุมต้องแถลงให้เด็ดขาด ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะการโพสต์ของ ส.ว.ว่าผู้ชุมนุมจะไปนั้น เป็นเรื่องใหญ่ ผู้ชุมนุมควรแถลงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน เพราะประชาชนต้องรู้ถึงความตรงไปตรงมากับผู้มาชุมนุม และไม่ให้เหตุการณ์ไม่พึงปรารถนาจะเกิดขึ้น” ประธาน นปช. กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการกล่าวหาท่อน้ำเลี้ยง โดยรัฐชอบคิดว่า การชุมนุมมีเบื้อหลังนั้น จึงไม่แก้ปัญหาเบื้องหน้า แต่ความจริง ถ้าปล่อยการชุมนุมเดินไปตามปกติ จะไม่มีปัญหาอะไรเลย ส่วนคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมด้วยนั้น ส่วนตัวย้ำมาตลอดว่าเป็นเสรีภาพของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย