หลังจากเกิดเหตุความวุ่นวายหน้า สน.นางเลิ้ง ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมและสามารถยุติการชุมนุมได้ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนและการ์ดอาสา ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวมวลชน ทั้ง 11 คน ไปยังสน.นางเลิ้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อให้กลุ่มการ์ดหยุดบุกเข้ามายังพื้นที่โรงพัก ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดได้จากผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงการ์ดอาชีวะ และรถของทางราชการที่ได้รับความเสียหาย รวม 2 คัน
ประกอบด้วย 1.รถกระบะควบคุมผู้ต้องหายี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีเทาคาดแดง ทะเบียน ฮฐ 421 กรุงเทพมหานคร ถูกตีกระจกด้านหลังจนแตกได้รับความเสียหายและมีตัวถังรถยุบจากแรงกระแทกทั้งซ้ายและขวา และ 2.รถกระบะประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีเทาคาดแดง ทะเบียน 1 ฒช 2266 กรุงเทพมหานคร ถูกพ่นสีสเปรย์ใส่ที่ตัวถังด้านขวาใกล้ประตูคนขับ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการเผยแพร่คลิปนาที ที่กลุ่มการ์ดอาชีวะ บุกเข้ามาทุบรถและด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ มีรายงานจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่ากรณีการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมนับ 1 ถึงล้าน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย เป็นชาย 10 ราย และหญิง 1 ราย ประกอบด้วย
1.นายธนิสร เชิดรัมย์ อายุ 21 ปี
2.นายพรพรหม คงตระกูล อายุ 34 ปี
3.นายทองนพเก้า ใจไทย อายุ 19 ปี
4.นายธนเดช วรรณโพธิ์กลาง อายุ 44 ปี
5.นายอดิศักดิ์ ผาลา อายุ 28 ปี
6.นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี
7.นายชัยณรงค์ สมพลกรัง อายุ 41 ปี
8.นายปัฏกรณ์ จาภรณ์ อายุ 18 ปี
9.นายณัฎนันท์ ตรีอริยสิน อายุ 41 ปี
10.นายจิตกร (ยังไม่ยืนยันนามสกุล) อายุ 22 ปี
11.น.ส.ธนพร จิรมาศสุนทร อายุ 47 ปี
นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพิ่มเติมเป็นชาย 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล ถูกนำส่ง รพ.กลาง เนื่องจากถูกกระสุนยางยิงเข้าที่บริเวณปากจนปากแหว่งฟันร่วง หลังพยายามเข้าไปสกัดกั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่จัดกำลังมารักษาความสงบบริเวณหน้า สน.นางเลิ้ง อีกด้วย
ล่าสุดพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้กล่าวแถลงข่าว ถึงหลาย ๆ ประเด็นที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 13 ก.พ. ระบุว่า มีผู้ชุมนุมถูกจับ 11 คน เมื่อตรวจสอบตัวบุคคล พบว่ามี 3 คน เป็นคนเมาสุรา ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ส่วนอีก 8 คน เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ขณะนี้ทั้ง 11 คน ถูกคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภาค 1)
มีตำรวจบาดเจ็บ 23 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองและได้รับผลกระทบทางการได้ยิน พร้อมยืนยันว่าการรักษาความสงบของตำรวจ ไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตา ไม่ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงและกระสุนยางกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด ส่วนอาสาพยาบาลนั้นไม่ใช่พยาบาลวิชาชีพและอยู่ในกลุ่มก่อความวุ่นวาย
อย่างไรก็ตาม ตอนหนึ่งผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ว่า มีการกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไรบ้างเมื่อเจอการยั่วยุ
“ก็อดทนอดกลั้น น้องก็เห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เจ็บมาตลอด ถึงพูดหลายครั้ง เราพยายามรักษาความสงบ กรณีมีเหตุการณ์ความรุนแรง เราอยากให้คนไม่เกี่ยวข้องออกนอกที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนได้”
อย่างไรก็ตามแกนนำม็อบมักจะออกมาโพสต์ข้อความประณามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบอกว่าการรวมตัวชุมนุม เป็นไปอย่างสันติ ไม่พกอาวุธ แต่จากที่ปรากฎในภาพสน.นางเลิ้ง จะเห็นว่ากลุ่มการ์ดได้ใช้ทั้งฆ้อน และขวานเข้ามาพุ่งตรงทุบรถราชการจนพังเสียหาย และในเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอดทนอดกลั่น จากการยั่วยุของกลุ่มมวลชน แกนนำก็ไม่เคยมองเห็นว่าแท้จริงแล้ว ใครเริ่มความรุนแรงนี้ก่อน