ฝ่ายวิเคราะห์กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเปิดบทวิเคราะห์สถานการณ์การรัฐประหาร ยึดอำนาจกองทัพเมียนมาว่า มีแนวโน้มบานปลายและอาจถึงขั้นนองเลือด ระบุว่าคนนอกทำได้แค่คว่ำบาตร นอกจากนี้ยังประเมินพรรคNLD ของนางอองซาน ซูจีว่าอาจถึงการล่มสลายเพราะขาดผู้นำ และการกดดันจากตะวันตกจะผลักให้เมียนมาเข้าหาจีนมากขึ้น ขณะที่นายกรมต.ประยุทธ์ จันทร์โอชาซึ่งได้รับจดหมายจาก พลเอกมิน อ่อง หล่ายแจ้งการยึดอำนาจ ชี้ไทยต้องการรักษาสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ให้มากที่สุด เพราะส่งผลต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักรว่า รายงานการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของเมียนมา โดยกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ประเทศซึ่งเป็นอดีต เจ้าอาณานิคมของเมียนมา คาดการณ์ว่า พรรคสันติบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) มีความเสี่ยงแตกหัก เนื่องจากขาดผู้นำ คือนางอองซาน ซูจี และอดีตประธานาธิบดี อู่ วิน มยินต์ อีกทั้งแกนนำหลายคนของพรรคNLD ยังคงถูกควบคุมตัว ยังไม่มีกำหนดชัดเจนว่าจะถูกปล่อยตัวเมื่อใด ทั้งนี้ การขาดเสถียรภาพภายในพรรคNLD จะเอื้อประโยชน์ให้กับกองทัพ ซึ่งสนับสนุนพรรคสหสามัคคี และการพัฒนา (USDP)ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี ของการบังคับใชัสถานการณ์ฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน รายงานฉบับนี้ ยังวิเคราะห์สถานการณ์ประท้วงต่อต้านการรัฐประหารซึ่ง มีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า
“มีแนวโน้มบานปลายเป็นการนองเลือด” และทิ้งทายว่า มาตรการกดดันจากภายนอกโดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศตะวันตก ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการคว่ำบาตร?? และอาจทำให้เมียนมาหันไปหาจีนมากขึ้นในอนาคต
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร และนายโดมินิก ราบบ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อรายงานดังกล่าว อนึ่ง รัฐบาลกลางในกรุงลอนดอน มีแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งเดียวกันกับสหรัฐอเมริกา คือประณามการรัฐประหารเมียนมา วันที่ 1 ก.พ.2564 และกล่าวว่า สหราชอาณาจักรกำลังหารือกับพันธมิตรเกี่ยวกับมาตรการขั้นต่อไป
ล่าสุดสำหรับประเทศไทย ในวันนี้ (10 ก.พ. 2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ได้ส่งจดหมายส่วนตัวถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและหนทางที่นำไปสู่การรัฐประหาร โดยระบุถึงเหตุผล 9 ประการว่า ทำไมการเลือกตั้งถึงไม่เป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มีการส่งจดหมายถึงตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีเนื้อหาสรุปง่ายๆคือขอให้ไทยสนับสนุนการเป็นประชาธิปไตยของเมียนมา ซึ่งตนก็สนับสนุนอยู่แล้ว แต่เรื่องการบริหารการจัดการภายในก็เป็นเรื่องของท่าน เป็นไปตามหลักการของอาเซียนที่มีกติการมากมายตรงนี้ อย่างน้อยเราก็สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในเมียนมา แต่สิ่งจำเป็นวันนี้คือการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ให้มากที่สุด เพราะมีผลต่อประชาชนโดยรวม ต่อเศรษฐกิจ ต่อการค้าขายชายแดนทั้งหมดที่สำคัญยิ่งในขณะนี้
เมื่อถามว่าได้มีการตอบกลับจดหมายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จดหมายที่ส่งมาไม่ได้ให้ตนตอบกลับ เป็นการชี้แจงเฉยๆ ให้สนับสนุนกระบวนกา ประชาธิปไตยของเมียนมา ซึ่งตนและประเทศไทยก็สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยอยู่แล้ว ก็สุดแล้วแต่ว่าเมียนมาจะทำอย่างไรต่อไป