พลโท นันทเดช ซัดยับ ธนาธร อ้างประชาชนเห็นด้วย ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กล้าโกหก บิดเบือนพาดพิงสถาบันต่อหน้าศาล
จากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธาานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาโจมตีบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับคนไทย โดยโจมตีว่า เป็นผู้ได้ผลประโยชน์จากการผลิตวัคซีนในครั้งนี้ โดยเปิดเผยข้อมูลสำคัญว่าด้วยการจัดหาและผลิตวัคซีนโควิดในประเทศไทย ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำไมรัฐบาลถึงจัดหาวัคซีนได้ไม่ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม ซึ่งในไลฟ์สด นายธนาธรตั้งใจที่จะพาดพิงไปถึงในหลวงรัชกาลที่ 10
ต่อมา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 มอบหมายทีมกฎหมายไปแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิดที่พาดพิงสถาบันหลัก ผ่านเพจคณะก้าวหน้า ฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) พร้อมกับได้ยื่นให้ศาลพิจารณาการกระทำดังกล่าว
ทางด้าน ศาลอาญาได้ตรวจสอบ พบเว็บไซต์ เผยแพร่ข้อความภาพและคลิปวิดีโอ ที่มีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร ปรากฏใน 3 URLs ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) ประกอบมาตรา 20 มีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ การไลฟ์สดของนายธนาธร เนื่องจากเห็นว่า เป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย 3 URLs ดังกล่าว
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางมาที่ศาลเพื่อร่วมการไต่สวนคำร้องคัดค้านของคณะก้าวหน้าที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลสั่งลบลิงก์ ตามคำขอกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) การเผยแพร่ภาพ-คลิปเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิดพาดพิงสถาบันฯ ผ่านเพจคณะก้าวหน้า
ในช่วงหนึ่งนายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกฎหมายมาตตรา 112 ระบุว่า “มาตรา 112 เป็นมาตราที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างแน่นอนที่สุด และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานนั้นก็คือสิทธิของการมี Free Speech หรือเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น นอกจากนี้มาตรา 112 ยังมีโทษที่สูงเกินไปอีกด้วย พวกเราจึงเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขมาตรา 112”
ต่อมาเมื่อวานนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2564)ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนายธนาธร ได้กล่าวถ้อยคำที่อาจจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อหน้าศาลว่า นักข่าวที่สนิทกันกับผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในขณะที่ไต่สวนคดีกระทรวงดีอีเอสขอปิดกั้น Facebook.live.วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย ที่หน้าบัลลังก์ศาล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวถ้อยคำที่อาจจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยขอพูดต่อหน้าศาล เป็นถ้อยคำที่ผมไม่ขอนำมาเผยแพร่ซ้ำอีก แต่ถ้อยคำนี้กล่าวหาใส่ร้ายพระเจ้าอยู่หัวอย่างแน่นอนในความคิดของผมและผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าวิญญูชนน่าจะคิดเช่นนี้เช่นกัน ผมได้สอบถามหลายท่านที่อยู่ในเหตุการณ์รวมถึงข้าราชการกระทรวงดีอีเอส ก็ยืนยันเช่นนี้ ผมคิดว่าธนาธรไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดแทนคนไทยทั้งประเทศเช่นนี้ และที่ผมโพสต์นี้ก็เพื่อที่จะปกป้องสถาบัน ผมต้องขอบคุณนักข่าวที่รักสถาบันที่แจ้งข่าวนี้ให้ผมทราบ พี่น้องประชาชนคิดอย่างไรครับ
ซึ่งก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมของนายธนาธร ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชัดเจน
ล่าสุดทางด้าน พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของนายธนาธร ที่กล้าพูดโกหกต่อหน้าศาล โดยระบุข้อความว่า