ความยุติธรรมยังมี?!?ศาลอุทธรณ์อังกฤษพลิกคำพิพากษามาดูโรชนะ!!คดีทองเวเนฯ 1,800 ล้านดอลลาร์ถูกธนาคารกลางยึด

2718

ศาลอุธรณ์อังกฤษพลิกคำตัดสินศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธรัฐบาลเวเนฯเบิกทองที่ฝากไว้ 1,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 56,034 ล้านบาท)อ้าง”นิโคลัส มาดูโร” ไม่ใช่ผู้นำชอบธรรมตามกฎหมาย ศาลอุทธรณ์มองว่าคลุมเครือ รัฐบาลอังกฤษยังติดต่อสัมพันธ์กับรัฐบาลมาดูโรเป็นผลในฝ่ายรัฐบาลชนะคดี อย่างไรก็ตามรัฐบาลเวเนซุเอลาต้องต่อสู้คดีไปจนถึงศาลสูงจึงจะรู้ผลว่าจะได้ทองคืนหรือไม่

รัฐบาลอเมริกาซึ่งอ้างว่าเคารพสิทธิเสรีภาพผู้อื่นต้องการรวบกิจการน้ำมันของเวเนซุเอล่า ได้สนับสนุนแต่งตั้งนายฮวน กวยโดซึ่งอดีตฝ่ายค้านไม่เป็นประธานาธิบดีของเวเนซุเอล่า สร้างม็อบจัดตั้งไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดุโรซึ่งชนะเลือกตั้งและเป็นประธานาธิบดีมาตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่งมือสังหารไปสังหารเขา แต่ไม่สำเร็จเพราะได้รับการช่วยเหลือจากรัสเซีย-ปูตินส่งนักรบพิเศษมาคอยคุ้มกันให้ ไม่เพียงเท่านั้น สหรัฐยังให้รัฐบาลอังกฤษยึดทองคำของเวเนซุเอล่าที่เคยฝากไว้ ในอังกฤษมีมูลค่ากว่า 1,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

นิโคลัส มาดุโร ถูกสองประเทศที่สร้างภาพมานานนักหนาว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างอเมริกาและอังกฤษสุมหัวกันยึดทองคำ พอหมดที่พึ่ง นิโคลัส มาดุโรจึงดำเนินการฟ้องศาลในอังกฤษขอทองคำคืนเพื่อเอาไปใช้ช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ กำลังถูกรัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอยู่

เดือนก.ค.2563 ธนาคารกลางแห่งเวเนซุเอลา หรือ บีซีวี เป็นโจทก์ฟ้องธนาคารแห่งอังกฤษ บีโออี ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นธนาคารที่ได้รับฝากทองคำสำรองมูลค่ากว่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าตีเป็นเงินไทย ก็กว่า 56,000 ล้านบาท แต่ทว่าธนาคารดังกล่าว ได้ปฏิเสธให้ธนาคารกลางแห่งเวเนซุเอลา เข้าถึงทองคำสำรองดังกล่าว

แบงก์ชาติอังกฤษ และรัฐบาลอังกฤษต่างมีจุดยืนเดียวกันคือยอมรับสถานะของนาย ฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เป็นผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับรัฐบาลยุโรปและในอเมริกาอีกหลายประเทศที่ยอมรับสถานะของนายกุยโด ซึ่งเขาต้องการเก็บทองคำสำรองประเทศให้พ้นมือของรัฐบาลมาดูโร เนื่องจากหวั่นว่ารัฐบาลมาดูโรอาจใช้ทองดังกล่าวไปในทางประโยชน์ส่วนตัว

ด้านทนายของรัฐบาลมาดูโร ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยชี้แจงว่ารัฐบาลและศาลชั้นต้นอังกฤษปฏิเสธต่อความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเวเนซุเอลาในขณะนี้ ว่าใครเป็นผู้บริหารประเทศที่แท้จริง และสถานการณ์ของเวเนซุเอลาขณะนี้ที่ประชาชนต้อเผชิญกับการระบาดโควิดและเศรษฐกิจหดตัวเนื่องจาก สหรัฐคว่ำบาตรการอายัดทองดังกล่าวจะยิ่งส่งผลเสียหายต่อประชาชนชาวเวเนซุเอลา

ปัจจุบันศาลอุทธรณ์พลิกคำตัดสิน เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.2563 ในคดีที่ธนาคารกลางแห่งเวเนซุเอลา(บีซีวี) เป็นโจทย์ฟ้องธนาคารแห่งสหราชอาณาจักร อังกฤษ (บีโออี) ที่อายัดทองคำน้ำหนักประมาณ 31 ตันมูลค่ากว่า 1,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 40,619.73 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลเวเนซุเอลาฝากไปกับบีโออี  ทั้งนี้ศาลชี้ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการยอมรับบุคคล ซึ่งอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

สตีเฟน เมลส์ แห่งศาลอุทธรณ์ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า รัฐบาลกลางแห่งกรุงลอนดอนต้องระบุให้ชัดเจนต่อศาลว่า “รับรอง” นายนิโคลัส มาดูโร หรือ นายฮวน กวยโด ในฐานะประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา และมีสิทธิ์ใช้อำนายทั้งหมดในฐานะรัฐบาลการากัส ไม่ใช่การยอมรับกวยโดในฐานะประธานาธิบดี แต่ยังดำเนินกิจการกับเวเนซุเอลาผ่านมาดูโร และรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การนำของมาดูโร กล่าวคือศาลมองว่า “คลุมเครือ” ต้องระบุให้ชัดเจน

ผู้แทนของกวยโดอดีตผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ซึ่งอยู่ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า  คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้หมายความว่า มาดูโรจะได้รับอนุญาตให้นำทองออกมาจากคลังของบีโออีได้  ส่วนทนายของรัฐบาลเวเนซุเอลายืนยันจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด  และยืนยันว่า รัฐบาล”มาดูโร” มีความจำเป็นต้องเข้าถึงทองคำของตนเพื่อมาใช้เป็นทุน  ต่อสู้กับวิกฤติโรคระบาดไวรัสโควิด-19  ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตนและพวกพ้องอย่างที่นายกวยโดกล่าวอ้าง