แกนนำม็อบ-การ์ดห้าว รัวโพสต์ปลุกระดมลูกก๊วน สั่งลาหากถูกขัง ลึก ๆ คือกลัวคุก?

ออกมาเคลื่อนไหวกันอย่างลนลาน สำหรับกลุ่มแกนนำคณะราษฎร และเหล่าการ์ดม็อบ โดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ แกนนำกลุ่มราษฎร หัวหน้ากลุ่มการ์ดอาสา We Volunteer หรือ wevo โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า #สวัสดีประชาชน

วันนี้มาพบทุกคนเช้ากว่าปกติ เนื่องจากว่าต้องรีบเตรียมตัวไปพบพนักงานสอบส่วนตามที่ทนายแจ้ง (โดยผมยังไม่ได้รับหมายเรียกเสียด้วยซ้ำ) ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมนาที ซึ่งปกติใช้เวลาเดินทางจากบ้านพัก ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่วันนี้บรรยากาศดูแปลก ๆ มีการเตรียมกำลังเต็มที่ ทั้ง คฝ. แท่งปูนแบริเออร์ และ ไอ้ยักษ์จีโน่ เจ้าเก่ามารอแล้ว

ส่วนใครจะเดินทางไป สภ.คลองหลวง ให้เผื่อเวลาเดินทางนะครับ เวลานี้ตำรวจได้ปิดถนนคลองหลวง ฝั่ง สภ. คลองหลวงเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้การจราจรติดขัดตลอดเส้นคลองหลวงเป็นอย่างมาก ผมในฐานะหนึ่งในผู้ต้องหาไม่แน่ใจว่าจะไปทันเวลาหรือไม่ จะพยายามออกจากบ้านพักให้เร็วที่สุด

อย่างไรเสียหากสุดท้ายเรื่องราวเป็นไปอย่างที่หลายคนคาดการณ์ คือ มีความพยายามใช้อภินิหารทางกฎหมายนำตัวผู้ต้องหาทุกคนเข้าคุก ไม่ให้ประกันตัว ก็ขอให้ทุกคนรับรู้เลยว่า มันคือเวลาใกล้ถึงจุดจบของเผด็จการศักดินาแล้ว พวกเราอย่าได้หวาดกลัวหรือเสียกำลังใจ แต่จงเปลี่ยนมันให้เป็นพลังและขับเคลื่อนมันต่อด้วยสติปัญญา อดทน อดกลั้น และรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมเข้าชิงชัย ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

ด้าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่จะมีการถูกฝากขังในวันนี้ (5 ก.พ. 2564) ระบุว่า [อาจมีการฝากขัง] พวกผมกับเพื่อนนักศึกษาร่วมสิบคนมีกำหนดต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวงจากกรณีชุมนุม #saveนิวมธ ซึ่ง พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ (ตำรวจสลายม็อบเจ้าเก่าเจ้าประจำ) ก็แอบเปรย ๆ ว่าอาจมีการฝากขัง ซึ่งสอดคล้องกับข่าวจากวงทนายความว่ามีความพยายามจะเอานักศึกษาและประชาชนที่เคลื่อนไหวเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เข้าเรือนจำให้หมดภายในเดือนมีนาคมนี้

ผมเองไม่ได้มีความหวาดกลัวใด ๆ เพราะก็เคยเข้าเรือนจำมาแล้วครั้งหนึ่ง และก่อนหน้านี้ก็เคยถูกคนจากรัฐขู่ทำร้ายมาหลายรอบ อย่างที่ผมเคยเขียนจดหมายออกมาจากเรือนจำ ผมเสียสละอะไรก็ได้เพื่อเป้าหมายที่เราต่อสู้ ก็คือให้แผ่นดินเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ผมไม่กลัวอะไร กลัวแต่การต่อสู้จะเงียบงัน แต่วันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าคบไฟแห่งความตื่นรู้และความกล้าหาญได้ถูกจุดขึ้นแล้วทั่วแผ่นดิน คนที่ตื่นขึ้นมาได้เห็นแสงสว่างแล้วย่อมจะไม่กลับไปหลับหูหลับตาอยู่กับความมืดมิดอีก ไม่ว่าพวกผมจะอยู่แห่งใดหรือจะมีพวกผมหรือไม่ ผมเชื่อว่าการต่อสู้ของประชาชนจะดำเนินต่อไป เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปนับหนึ่งและเราจะไม่หันหลังกลับอีกต่อไป

ดังนั้น หากใครที่พอสะดวกก็ขอเรียนเชิญมาพบปะพูดคุยกันก่อนพวกผมจะเข้าไปสถานีตำรวจ ณ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง เวลา 10.00 น. ตรง และหากผมไม่ได้ออกมา เชื่อว่าเพื่อนนักศึกษาและพี่น้องประชาชนจะยังคงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป สู้เพื่อความเป็นไท ดีกว่ายอมเป็นทาส พร้อมโพสต์ข้อความต่อว่า “ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคลองหลวงหลุดปากออกมาว่าจะมีการส่งตัวฝากขัง”

ทางด้าน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไม่ค์ ได้โพสต์ภาพบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง พร้อมกับระบุข้อความว่า พรุ่งนี้ขออนุญาตทดสอบรั้วครับ ว่าตำรวจใช้ภาษีประชาชนสร้างรั้วที่ได้มาตรฐานหรือไม่?!

ส่วน นายอานนท์ นำพา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้มีการโพสต์ข้อความถึงกรณีที่เสี่ยโป้ถูกจับ ว่าจะมีการจัดการแกนนำกลุ่มนักศึกษาโดยระบุข้อความว่า ลือกันไปถึงขนาดส่งเสี่ยโบ้เข้าคุกไปรอจัดการนักศึกษา นี่มันจะนิยายเกินไปมั้ง ตำรวจอาจฝากขังนักศึกษา ลองจับตากันครับว่าจะยังไง” และว่า “ถ้าตำรวจฝากขังเพื่อนเราแล้วศาลไม่ให้ประกัน ก็เริ่มต้นม็อบอย่างเป็นทางการ สถานที่ และเวลา ติดตามที่เพจเครือข่ายราษฎร”

ทั้งนี้ นายอานนท์ ยังโพสต์ต่อไปว่า “ถ้าตำรวจฝากขังเพื่อนเราแล้วศาลไม่ให้ประกัน ก็เริ่มต้นม็อบอย่างเป็นทางการ สถานที่ และเวลา ติดตามที่เพจเครือข่ายราษฎร”

อย่างไรก็ตาม การที่เหล่าแกนนำ หรือ การ์ดม็อบออกมาโพสต์ข้อความถึงการที่อาจจะโดนจับฝากขังนั้น ทำให้เกิดการตั้งคำถามจากสังคมว่า คนกลุ่มนี้กำลังเกิดอาการกลัวผลกรรมที่ทำหรือไม่ ถึงได้มีการโพสต์เหมือนปลุกระดมมวลชนอยู่เป็นนัย ๆ อย่างที่ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง พ่อค้าเขียงหมูนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และท่อน้ำเลี้ยงม็อบราษฎร ที่เพิ่งโดนตำรวจออกหมายเรียกข้อหา “ไม่ได้แจ้งการชุมนุมฯ” มาตรา 10 ของ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ตอนนี้เรื่องที่กังวลคงเป็นเรื่องที่อานนท์มันพูดนั้นละ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คนโดน 112 จะถูกฝากขัง แล้วประกันตัวยาก เรื่องนั้นก็เรื่องนึง

แต่อีกเรื่องที่น่าห่วงก็คือ ถ้าหัว ๆ โดนกันหมด แนวร่วมที่อยู่ด้านนอกจะทำไง มันจะเหมือนตอนม็อบออแกนิคที่ไม่มีแกนนำแล้วทุกอย่างมันคุมไม่ได้ ม็อบจะเกิดขึ้นเยอะไปหมด กลัวจะตีกันแล้วบานปลาย ฝากไปถึงฝ่ายความมั่นคงนะครับ อย่าคิดทำอะไรแบบนั้นเลย การที่ยังมีแกนนำอยู่นอกคุก สถานการณ์ยังไง ๆ ก็ดีกว่าตอนที่แกนนำอยู่ในคุกแน่นอน”