ศบค.เผยยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 2 หมื่นราย ดับอีก 2 นิสิตม.เกษตรป่วยโควิด เดินทางมาจากสมุทรสาคร หลังเปิดเรียนวันแรก

3370

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงสถานการณ์ “โควิด” ประจำวันที่ 2 ก.พ. 2564 ระบุว่า ผู้ป่วยใหม่วันนี้มี 836 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 20,454 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 819 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 20,454 ราย หายป่วยแล้ว 13,217 ราย เสียชีวิต 2 ราย สะสมคงที่ 79 ราย

ผู้เสียชีวิตรายที่ 78 เป็นหญิงไทย อายุ 75 ปี ที่ จ.สมุทรสาคร โรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เมื่อวันที่ 25 ม.ค. เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่เป็นสามีของผู้ป่วย โดยไม่มีอาการใดๆ และกลับไปรอฟังผลที่บ้าน

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ หลังจากนั้นลูกสาวแจ้งว่า ผู้ป่วยเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย หายใจเหนื่อย ซึมลง จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาล(รพ.) ในสมุทรสาคร ต่อมาอาการมาก เหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เสียชีวิตลงในวันที่ 30 ม.ค.

“รายนี้อายุมากถึง 75 ปี มีอาการเร็วมาก ภายในวันที่ 25 ม.ค. ไปตรวจเพราะสามีติดเชื้อยืนยัน และวันที่ 28 ม.ค. ก็ยังเริ่มมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ต่อมาอีก 2-3 วัน ก็เสียชีวิตลง เป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้”

ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 79 เป็นชายไทย อายุ 68 ปี อาชีพค้าขาย โรคประจำตัว คือ เบาหวาน ไตวายระยะสุดท้าย เคยมีประวัติปลูกถ่ายไต มีประวัติไปพื้นที่เสี่ยงคือสมุทรสาคร ไปร้านคาราโอเกะย่านปิ่นเกล้า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 มีอาการไอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 ผลการตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นเข้ารักษาที่รพ. เป็นร่วม 1 เดือน และเสียชีวิตวันที่ 1 ก.พ. เวลา 01.00 น.

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังได้รายงานถึงตัวเลขการติดเชื้อที่จังหวัดสมุทรสาครที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสำหรับก้อนใหญ่ 109 ราย ในวันนี้มาจากจังหวัดสมุทรสาคร 99 ราย และยัง พบเด็กอายุเพียง 26 วัน ที่เพิ่งคลอดออกมา ติดเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร

และอายุที่มากที่สุดที่ติดเชื้อโควิด อยู่ที่อายุ 81 ปี และที่มีความกังวลคือ นอกจากเคสที่อยู่ในโรงงานต่าง ๆ ที่เข้าไปตรวจเจอและนำมารายงาน แต่เคสที่เดินทางเข้าไปตรวจเองที่โรงพยาบาลที่จังหวัดสมุทรสาครก็ต้องเข้าไปตรวจสอบเหมือนกัน


ส่วนทางด้านนายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากรองอธิการบดี ที่ดูแลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ระบุว่า พบนิสิต 1 ราย ติดเชื้อโควิด-19 โดยนิสิตรายกล่าว พักอาศัยอยู่หอพักบริเวณนอกมหาวิทยาลัย


ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ซึ่งหากทราบรายละเอียดชัดเจน จะเร่งดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด แต่เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่านิสิตรายดังกล่าวเข้ามาทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยหรือไม่ หากพบว่ามีกิจกรรมตรงพื้นที่ใดก็จะปิดพื้นที่ดังกล่าวทันที และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของสธ.ทันที สำหรับนิสิตรายดังกล่าว เดินทางข้ามมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมาเรียนที่มก.วิทยาเขตกำแพงแสน เนื่องจากเปิดให้เรียนในสถานที่ตั้งวันแรก


ขณะที่ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดหาวัคซีน ว่าที่ผ่านมาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้กำหนดการส่งมอบยังเป็นเช่นเดิม ซึ่งคำตอบคือยังคงเดิมคือเดือนมิถุนายน แต่พยายามอย่างเต็มที่ให้ได้เร็วที่สุด ถ้ามาก่อนเดือนมิถุนายนคือความพยายาม ประเทศไทยเราอย่าไปเทียบกับประเทศอื่น

“คนที่ชอบพูดว่าประเทศอื่นได้รับแล้ว ต้องไปดูรายละเอียดของแต่ละประเทศ บางประเทศได้รับในฐานะที่ยอมให้ประชาชนได้รับการทดลองวิจัยวัคซีน ไม่ใช่เป็นผู้ซื้อและเขามีผู้ป่วยเพียงพอในการทดลอง ซึ่งประเทศไทยมีไม่พอ และไม่เคยอยู่ในหัวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนนี้ ที่จะเอาคนไทยมาเป็นผู้ที่จะถูกทดลอง เราไม่ได้อยู่ในสภาพนั้นเพราะประเทศไทยควบคุมได้

ลองนึกสภาพหากฉีดแล้วเหมือนในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เมื่อฉีดแล้วปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใครจะเป็นผู้อธิบาย เมื่อเรามีเวลาและโอกาสเลือกสิ่งที่ปลอดภัยทำไมจะไม่ทำ” จะไม่ยอมให้ใครมาทดลองวัคซีนกับคนไทย เพื่อแลกกับการได้ชื่อว่า “ได้วัคซีนก่อน” แต่จะเลือกสิ่งที่ดี เหมาะสม มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยมาให้คนไทย

“ส่วนทางโรงแรมที่ถูกฟ้องก็ส่งข้อมูลว่าไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์ แต่มีการเสิร์ฟน้ำแอปเปิล น้ำส้มคั้น น้ำบ๊วย ทุกอย่างสั่งปิดในเวลา 3 ทุ่ม ต้องไปดูว่าผิดหรือไม่ เป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าเป็นตามนั้นให้สังคมตัดสิน”