จากกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์หัวข้อ ยกเลิก ม. 112 ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า
“ตอบ! ทุกข้อโต้แย้ง ค้านยกเลิกมาตรา 112
ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรา 112 กลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง หลังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทางการเมือง
คนที่ต่อต้านการยกเลิก-แก้ไขมาตรา 112 มักจะมีข้อโต้แย้งเหมือนๆ กันอยู่ไม่กี่ข้อ
มาดูวิธีตอบข้อโต้แย้งที่ถูกนำมาใช้เป็นประจำ เพื่อจะได้ช่วยกันนำไปอธิบายให้คนที่มักใช้เหตุผลเหล่านี้เข้าใจว่าทำไมเหตุผลของเขาจึงฟังไม่ขึ้น!!
#ยกเลิก112 #สนามกฎหมาย”
โดยนายปิยบุตรได้แนะวิธีการตอบคำถามต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 โดยอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสถาบันกษัตริย์
ล่าสุด ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“#ตบกะลาบนกบาลฟายบูดเรื่องการยกเลิก112
ความอยากให้ยกเลิก ม.112 เป็นของฟายบูดกับสาวกที่หลงเชื่อ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ มีแต่จะสร้างความขัดแย้งแตกแยกโดยไม่จำเป็น คนที่ได้ประโยชน์เห็นทีจะมีแต่ฟายบูดที่ต้องการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีพฤติกรรมเช่นนั้นมาโดยตลอด ฟายบูดเองที่มักจุดประเด็นดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้ง แล้วก็พูดเองเออเองแบบบิดเบือนให้ร้ายหรือพูดในสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นเกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนปลุกระดมให้ผู้อื่นทำผิดกฎหมายแทนตัวฟายบูดเองด้วยการชี้นำทางความคิดชั่วๆ
นอกจากนี้ประโยชน์ที่ฟายบูดได้รับเต็มๆ หากสามารถยกเลิก ม.112 ได้ คือ การพา “เออเชนี” หรือที่เรียกสั้นๆว่า “ชะนี” กลับไทยแบบไม่ต้องกังวล ม.112 อีกต่อไป ทั้งๆที่ตัวฟายบูดเองเคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2560 ว่าไม่อยากอยู่ไทยตามชะนี แต่จนบัดนี้ฟายบูดก็ยังหน้าด้านหน้าทน กลืนสำรอกของตัวเองอยู่ทุกวัน ไม่ยอมไสหัวออกไปเสียที
ตบกบาลฟายบูด ทุกข้อโต้แย้งค้านการยกเลิก 112
1. ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : มาตรา 112 เป็นความผิดทางอาญา คนละเรื่องกับ มาตรา 6 ที่เป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่รับรองสถานะของกษัตริย์ว่า “เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้” ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ กษัตริย์ต้องดำรงสถานะเป็นกลางทางการเมือง ไม่ได้ใช้อำนาจบริหารโดยแท้ และไม่ต้องรับผิดชอง แต่มีรัฐมนตรีผู้ใช้อำนาจเป็นคนรับผิดชอบแทน
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นคนละส่วนกับกฎหมายอาญา แต่กฎหมายอาญาก็มีเจตนาสอดคล้องกับกฎหมายรัฐธรรมนูญในการคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ แล้วสถาบันพระมหากษัตริย์ก็เป็นกลางอยู่เคียงข้างกับประชาชน ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า พระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมากแก่ประชาชนทั่วไปรวมถึงผู้ต้องขังภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข แต่คนหนักแผ่นดินและรกโลกอย่างฟายบูดก็ยังออกมาใส่ความหาเรื่องท่าน
2. ประเทศไหนๆ เขาก็มีกัน
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : หลายประเทศไม่มีเลย เช่น ญี่ปุ่น ส่วนอังกฤษใช้กฎหมายแบบบุคคลธรรมดาและมีโทษปรับ บางประเทศมี แต่ไม่ได้นำมาใช้ หรือหากใช้มีโทษเบา หรือใช้เพียงโทษปรับ เช่น เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : ทำไมฟายบูดถึงพูดไม่หมด ไม่ยอมพูดถึงประเทศสเปนที่มีการจำคุกนักร้องเพลงแร็พชาวสเปน 3 ปี 6 เดือน เพราะแต่งเพลงวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากที่เคยติดคุกมาแล้ว 2 ปี
เห็นได้ชัดว่า แต่ละประเทศมีกฎหมายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายเหตุปัจจัย กฎหมายไทยขึ้นอยู่กับคนไทยไม่ใช่ต่างประเทศ แต่ไม่ว่าสังคมใดถ้ามีคนแย่ๆละเมิดกฎหมาย กฎหมายก็มีความจำเป็นต้องมี และถูกบังคับใช้ต่อไปเรื่อยๆ นอกเสียจากไม่มีคนทำผิดกฎหมายแล้วไม่มีการใช้ไปนานๆ การยกเลิกกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ปกติ แต่ประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องใช้ไปอีกนาน เพราะมีคนอย่างฟายบูดที่ต้องการยกเลิก ม.112 ด้วยการปลุกระดมให้คนทำผิด ม.112 มาตั้งแต่ต้น
3. คนธรรมดายังมีโทษหมิ่นประมาท กษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของรัฐยิ่งต้องมี
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : เมื่อบุคคลมีกฎหมายหมิ่นประมาท การคุ้มครองกษัตริย์ก็ใช้กฎหมายหมิ่นประมาทเหมือนบุคคลธรรมดาก็ได้ หากเห็นความสำคัญของตำแหน่งประมุขของรัฐ ก็อาจเขียนเป็นบทเพิ่มโทษได้
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : พระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมืองและความขัดแย้ง จะใช้กฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาตามที่ฟายบูดบอก แล้วให้ท่านลงมาฟ้องเองได้อย่างไร? จะยิ่งไม่ใช่การนำท่านลงมาสู่ความขัดแย้งหรอกหรือ? ฟายบูดนี่แหละที่นำท่านลงมาสู่ความขัดแย้งในตลอดระยะเวลาราว 10 ปีที่ผ่านมา แล้วพอดีช่วงหลังฟายบูดเจอเพื่อนโง่แต่รวยที่มีสื่อและครอบงำสื่อจำนวนมากอยู่ในมือ เสียงของฟายบูดก็เลยดังขึ้นมา แล้วล้างสมองสาวกสร้างฟายด้วยสื่อบิดเบือนในรูปแบบต่างๆ
4. ขนาด มาตรา 112 มีโทษแรงยังมีคนละเมิดกฎหมายขนาดนี้ ถ้าไม่มีจะขนาดไหน???
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : การนำคนที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทกษัตริย์ไปดำเนินคดี ไปเข้าคุก ก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนความคิด แต่การพูดคุยถกเถียงกันด้วยเหตุผลอย่างเปิดเผย-ปลอดภัยต่างหากคือทางออก
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : ไม่มีใครบังคับใครให้รักใครได้ อย่าคิดไปเองนะฟายบูด แต่ที่แน่ๆฟายบูดนี่แหละที่ยุยงปลุกปั่นให้ไม่รัก ฟายบูดจึงเป็นขยะสังคมชิ้นหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความแตกแยก แล้วที่เชิญชวนให้ออกมาดีเบตเพื่อหาข้อยุติทั้งหมด แค่นี้ฟายบูดก็ยังไม่กล้า ดังนั้นฟายบูดก็อย่ามาพูดเลยว่าให้พูดคุยถกเถียงกันด้วยเหตุผลอย่างเปิดเผย เพราะขนาดฟายบูดยังไม่กล้าออกมาพูดคุยถกเถียงกันด้วยเหตุผลเลย
แม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาสื่อสารผิดพลาดว่าจะไม่ให้มีการใช้ ม.112 แต่ก็ช่วยล่อแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ดึงธาตุแท้อันต่ำตมของสาวกฟายบูดออกมาได้ ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้เกิดการถกเถียงแบบผู้ที่เจริญแล้วด้วยเหตุด้วยผล และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศก็เป็นพยานร่วมกันว่าบรรดาสาวกที่ถูกฟายบูดล้างสมอง มีแต่การด่าทอสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหยาบคาย เสียๆหายๆอย่างสถุลชน บิดเบือนใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์แบบมั่วไปหมด จนไม่สามารถหาสาระทางวิชาการหรือหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อพูดจากันดีๆแบบผู้ที่เจริญแล้วได้
5. ถ้าไม่ทำผิด ก็ไม่เห็นต้องกลัว
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : ไม่ใช่ เพราะแม้ไม่ได้ทำผิด ก็โดน ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ก็ถูกถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี เนื่องจากใช้กฎหมายเกินขอบเขตไปมาก
เช่น กรณีพูดถึงสุนัขทรงเลี้ยง, พิมพ์คำว่า “จ้า“, วิจารณ์อย่างสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะ, พูดถึงสมเด็จพระนเรศวรหรือรัชกาลที่ 4
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : แค่ “กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย” กับ “ตัวกฎหมาย” ฟายบูดยังแยกไม่ออก ปัญหาอยู่ที่ “กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย” แต่ฟายบูดกลับไปโจมตีให้ยกเลิก “ตัวกฎหมาย”
6. บ้านเมืองกำลังลำบาก จะมายกเลิก มาตรา 112 ทำไม แก้ปัญหาปากท้องได้หรือ?
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : ไม่ได้บอกให้ทำแค่เรื่อง มาตรา 112 ปัญหาของประเทศ-สังคม-ประชาชนมีหลายเรื่อง ควรต้องทำทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องเจาะจงทำอยู่เรื่องเดียว ทำพร้อมกันหมดเลยได้ ทั้งแก้โควิด-19 เศรษฐกิจ ปากท้อง สิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : แล้วทำไมต้องเชื่อคนหนักแผ่นดินอย่างฟายบูด ที่วันๆสร้างแต่ความแตกแยก สนใจแต่ความต้องการของตัวเอง และถ้าสิทธิมนุษยชนสำคัญจริงๆ ฟายบูดควรช่วยรณรงค์ให้กฎหมายเอาผิดไอ้ชั่วที่ยุยงปลุกปั่นให้คนอื่นทำผิดกฎหมายแทนตัวเองได้ง่ายๆด้วย ไอ้ชั่วที่หลอกใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือเพื่อสนองความต้องการของตัวเองในการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
7. การยกเลิก-แก้ 112 = ล้มเจ้า
ฟายบูดติวสาวกให้แถว่า : 112 เป็นกฎหมายมาตราหนึ่ง ขึ้นชื่อกฎหมายก็แก้ไข ปรับปรุง ยกเลิกได้เสมอ คนที่เคยเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 มีเยอะ รวมทั้งรอยัลลิสต์ด้วย มาตรา 112 ไม่ได้เท่ากับสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นยกเลิกไม่เท่ากับล้มสถาบันฯ ตรงกันข้าม การยกเลิกมาตรา 112 จะช่วยรักษาสถาบันกษัตริย์ด้วย
ดร.นิว แนะให้ตบกบาลฟายบูดว่า : เห็นด้วยว่าควรแก้ไขอย่างถูกต้องภายใต้หลักวิชาการและความเป็นจริง ดังนั้นฟายบูดควรหยุดพูดคนเดียว แล้วมาดีเบตกันดีกว่า รวมถึงหยุดพ่นตรรกะโง่ๆที่บอกว่า การยกเลิก-แก้ 112 = ล้มเจ้า ฟายบูดก็พูดเองเออเองเพื่อดิสเครดิตคนที่สนับสนุน ม.112 แต่ใช่ว่าทุกคนจะคิดเห็นเหมือนกันทั้งหมด
การถกเถียงกันด้วยความคิดเห็นตามลัทธิความเชื่อมันไม่จบ มีแต่จะสร้างความขัดแย้งแตกแยกไม่รู้จักจบจักสิ้น
มีแต่การถกเถียงกันด้วยหลักวิชาและความเป็นจริงเท่านั้น ที่จะสามารถหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ และยุติทุกปัญหาความแตกแยกทางความคิดทั้งหมดได้
ดร.ศุภณัฐ
31 มกราคม พ.ศ. 2564
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ”
