“ม.ล.สราลี กิติยากร” เล่าชาวไทยภูเขาครั้งในหลวงสองพระองค์เสด็จฯ เห็นชีวิตคนดอย

2309

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ เหล่าแกนนำม็อบได้พยายามโหนกระแสการทำความดีของพิมรี่พายยูทูบเบอร์ชื่อดัง และโจมตีโครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

โดยลามไถึงขั้นการแบนผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวงและดอยคำ

ล่าสุด หม่อมหลวงสราลี กิติยากร หรือ คุณน้ำผึ้ง นักแสดง พิธีกร คอลัมนิสต์ และนักธุรกิจชาวไทย เป็นธิดาคนเล็กในหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร พระเชษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร(หม่อมเจ้าพันธุ์สวลี ยุคล) เป็นพระขนิษฐาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และเป็นพระมาตุจฉาของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงสหายชาวไทยภูเขาเผ่าปาเกอญอ ผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเนื้อหาระบุว่า

“ความในใจที่น้ำผึ้งสัมผัสได้ เมื่อได้เจอ …
พะตีพะโย (คุณตาพะโย) ชาวไทยภูเขาเผ่าปาเกอญอ ผู้มีความจงรักภักดีต่อ
พระราชา และ ประเทศไทยแผ่นดินที่ได้อาศัยอยู่ตั้งแต่บรรพบุรุษ
สืบต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง

เมื่อคืนของวันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ตอนเวลาสี่ทุ่ม
พะตีได้จากไปอย่างสงบ ด้วยวัยชรา 86ปี
และมีภาวะโรคไตเสื่อมเรื้อรังมานานหลายปี

เมื่อ 3 ปีก่อนน้ำผึ้งได้มีโอกาสเดินทางไปที่บ้านหนองหล่ม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปเยี่ยมพะตี และตั้งใจจะไปตามรอยเส้นทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนิน มายังพื้นที่นี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 จนถึงปี พ.ศ. 2521

โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาที่บ้านหนองหล่มถึง 8 ครั้ง
เพื่อพระราชทานแนวทางในการดำรงชีพให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้วยการให้เลิกปลูปฝิ่น หันมาปลูกกาแฟและพืชผักเมืองหนาวแทน ที่สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนบนดอย

ซึ่งพะตีได้ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทในฐานะผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองหล่ม
และได้สนองแนวพระราชดำรินำเมล็ดพันธุ์กาแฟพระราชทานมาปลูก เป็นกาแฟต้นแรกในพื้นที่บนดอยสูง

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

พะตีบอกกับน้ำผึ้งว่า “เป็นบุญของคนในพื้นที่นี้ที่มีพระราชามาหาประชาชนถึง 2 พระองค์ พะตีรักพระเจ้าอยู่หัวมาก”

หลายคำพูดที่พะตีได้กล่าวออกมาจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ด้วยความซาบซึ้ง ในวันนั้นน้ำผึ้งบอกกับพะตีว่า “จะกลับมาหาพะตีและจะมาดื่มกาแฟจากต้นพันธ์ุพระราชทานด้วยกัน”

น้ำผึ้งไม่เคยลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับพะตีเลย ส่วนพะตีเองก็รอคำสัญญาที่น้ำผึ้งได้ให้ไว้เช่นกัน

เกือบ 3 ปี ที่น้ำผึ้งได้กลับมา พะตีเมื่อทราบข่าวว่าน้ำผึ้งจะมา ให้คนพามานั่งรอที่หน้าบ้านนับวันถอยหลังที่จะได้เจอกัน ก่อนหน้าน้ำผึ้งมา พะตีไม่สบายมาก อาการของโรคกำเริบต้องเข้าโรงพยาบาลรับการรักษาด่วน และออกจากโรงพยาบาลก่อนหน้าที่น้ำผึ้งจะมาเยี่ยมเพียงแค่ 1 วัน

เมื่อเจอน้ำผึ้งพะตีกลับมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นนั่งเองอย่างแข็งขันดูแข็งแรงกว่าปกติ
จนทุกคนแปลกใจ เราได้พูดคุยกันมากมาย โดยเฉพาะเรื่องความจงรักภักดีของพะตีที่มีต่อในหลวง ที่พะตีพูดกี่ครั้งก็ดูสีหน้ามีความสุขเสมอ

พะตีบอกว่าพะตีไม่ไหวแล้ว พะตีมานั่งรอน้ำผึ้งทุกวัน รอว่าน้ำผึ้งจะมาเมื่อไร
วันนี้น้ำผึ้งมาแล้วไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม น้ำผึ้งบอกว่าต้องได้เจอสิ…
… น้ำผึ้งจะกลับมาเจอกับพะตีอีก…
พะตีต้องอยู่ดูความเจริญรุ่งเรืองของหมู่บ้านที่คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อจากพะตีต่อไปนานๆ

ทุกคนที่นี้บอกว่าพะตีอยู่รอน้ำผึ้ง เพราะก่อนที่น้ำผึ้งมาและหลังจากที่น้ำผึ้งกลับไปอาการของพะตีดูไม่ดีเลย จะดูอาการดีก็ตอนที่น้ำผึ้งไปเยี่ยมเท่านั้น วันนี้น้ำผึ้งคิดถึงพะตีทั้งวันเลย

ในภาพอาจจะมี 2 คน

ใบหน้าของพะตี รอยยิ้ม พลังใจที่เข้มแข็ง ความจงรักภักดีที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แนบแน่นอยู่ในความทรงจำ

ถึงแม้ว่าวันนี้พะตีจะไม่อยู่แล้ว
แต่คุณงามความดีและสิ่งที่พะตีได้ทำ
ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในองค์พระราชา
จะฝังรากลึกลงในหัวใจของชนรุ่นหลังที่ได้เดินตามรอยพะตี
และสืบสานงานต่อไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนอย่างยั่งยืน
ขอให้ดวงวิญญาณของพะตี มีความสุขบนสวรรค์นะคะ”