จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2563 จำนวน 31,268 คนเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ “ซึ่งต้องพิสูจน์” ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุเนื้อหาจากการตรวจสอบรายชื่อหลังมีการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แล้วพบว่าการที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯลงมานั้นทางด้านผู้ที่ได้รับจะต้องทำเรื่องขอตามระเบียบขั้นตอน
โดยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่สมาชิกรัฐสภาและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา(https://www.parliament.go.th/…/article_20130904135136.pdf)
ทั้งนี้จากการตรวจสอบต่อไปก็ยังพบข้อความที่น่าสนใจอย่างน่าตั้งข้อสังเกตสำหรับรายชื่อเพราะมีบรรดาส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านอย่างก้าวไกลเป็นจำนวนหลายคนดังนี้
ส.ส. ก้าวไกลอย่างน้อย 25 คน ในฐานะ ส.ส. 22 คน คือ 1. นายขวัญเลิศ พานิชมาท 2. นายคารม พลพรกลาง 3. นายจรัส คุ้มไข่น้ำ 4. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ 5. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ 6. พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ 7. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 8. นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 9. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม 10. นายทองแดง เบ็ญจะปัก
- นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร 12. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 13. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 14. นายวรภพ วิริยะโรจน์ 15. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 16. นายวุฒินันท์ บุญชู 17. นายศักดินัย นุ่มหนู 18. นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล 19. นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 20. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 21. นางสาวเบญจา แสงจันทร์ 22. นางสาววรรณวิภา ไม้สน
นอกจากนี้ยังพบในฐานะประธานกรรมาธิการ 3 คน 1. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา 2. นายสุเทพ อู่อ้น 3. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุลและยังมีอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ อีก 7 คน ชั้น ประถมาภรณ์มงกุฎไทย คือ 1. นายชำนาญ จันทร์เรือง สำหรับ ชั้น ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย 1. นายไกลก้อง ไวทยาการ 2. นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ 3. นายนิรามาน สุไลมาน 4. นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 5. นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 6. นางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน
(http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/B/E001/2.PDF)
อย่างไรก็ตามเป็นที่ชวนให้ตั้งคำถามกับพรรคก้าวไกลว่ามีจุดยืนอย่างไรกันแน่ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาจากส.ส.หลายคน รวมทั้งแกนนำพรรคคนสำคัญต่างเรียกร้องให้ยกเลิก หรือ แก้ไขมาตรา 112 ที่กลุ่มม็อบจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงและหยาบคาย ซึ่งชัดเจนว่าส.ส.พรรคนี้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบดังกล่าว แต่ทำไมถึงมาขอพระราชทานเครื่องราชย์ฯ หรือการกระทำของคนพรรคนี้พูดอย่างทำอย่าง คล้ายเกลียดปลาไหลแต่กินน้ำแกง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 มกคม 2564 นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าเมื่อสภาเปิดประชุม ทางพรรคก้าวไกลจะยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112, ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560, และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
แม้กระทั่งพรรคก้าวไกลช่วงที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ก็มีความชัดเจนต่อท่าทีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะหากย้อนไปเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติอนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ด้วยคะแนนเสียง 374 ไม่เห็นด้วย 70 งดออกเสียง 2 จากองค์ประชุม 446 เสียง โดย 70 เสียงที่โหวตคว่ำนี้เป็นของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด