ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
#ปิยบุตรจอมบิดเบือนให้พระมหากษัตริย์เป็นนักโทษ คนรกโลกและหนักแผ่นดินอย่างนายปิยบุตร ไม่ทำอะไรนอกจากบิดเบือนโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และคอยยุยงปลุกปั่นเพื่อปลุกม็อบล้มเจ้า ยัดเยียดความแตกแยกให้คนไทยทะเลาะกันเอง บั่นทอนความมั่นคงของประเทศชาติให้ระส่ำระสายไปวัน ๆ
สถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศมีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่าประเทศไทยเสียอีก แต่นายปิยบุตรกลับไม่เคยพูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว
พระมหากษัตริย์ไทยเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งไม่ได้มีพระราชอำนาจ (Royal prerogative) อย่างที่มีปรากฏในรัฐธรรมนูญของประเทศอื่น ๆ ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานการแนะนำ, การส่งเสริม และการตักเตือนแก่รัฐบาล ซึ่งตามรูปแบบปกติโดยทั่วไป นายกรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากพระมหากษัตริย์เป็นประจำ (อังกฤษ, เบลเยียม, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก, สเปน)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศนอร์เวย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากพระมหากษัตริย์นอร์เวย์รวมถึงองค์รัชทายาทเป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่คนไทยกลับไม่เคยเห็นภาพอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย อีกทั้งพระราชอำนาจและบทบาทสำคัญแบบนี้มักถูกบิดเบือนใส่ร้ายให้ดูเป็นเรื่องที่ผิดปกติและไม่เหมาะสมเสียด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะลัทธิรัฐธรรมนูญตั้งแต่คณะราษฎรในอดีตเรื่อยมาจนถึงนายปิยบุตรในปัจจุบัน คอยยัดเยียดชุดความคิดบิดเบือน บั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ลิดรอนพระราชอำนาจและบทบาทอันพึงมีตามปกติของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศเขาก็มีรายได้และธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป สถาบันพระมหากษัตริย์เกือบทุกประเทศในโลกมีธุรกิจเป็นของตัวเองแทบทั้งสิ้น แล้วการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ในแต่ละประเทศร่ำรวยไม่เท่ากันก็เป็นเพราะภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และพระราชวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกัน ในแง่นี้สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยดูเหมือนจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ช่วยเหลือประชาชน คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขและอยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด แต่ด้วยเจตนาอันโสมมของนายปิยบุตร นายปิยบุตรจึงไม่เคยพูดถึงความดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่โบราณกาลนานมาตลอดจนถึงการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมากของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
นับได้ว่ามีเรื่องสำคัญอยู่ 2 เรื่องที่นายปิยบุตรไม่เคยพูดถึง 1.ความดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 2.ความชั่วช้าสามานย์ของคณะราษฎร พฤติกรรมของนายปิยบุตรจึงมีแต่กัดเซาะบ่อนทำลายให้สถาบันพระมหากษัตริย์เหินห่างจากประชาชน ทั้ง ๆ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้วางรากฐานของชาติและระบอบประชาธิปไตยเพื่อประชาชนมาตั้งแต่ต้น
สิ่งที่ปิยบุตรทำมาทั้งหมดจึงเป็นไปเพื่อสร้างความแตกแยก บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและประชาชน พยายามยัดเยียดทำให้พระมหากษัตริย์กลายเป็นนักโทษ ตลอดจนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ลงในที่สุด
ในเมื่อนายปิยบุตรถูกเปิดโปงซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาจนถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดสำรอกกำพืดชั่ว ๆ ออกมาอีก เมื่อพูดจากันดี ๆ ด้วยหลักการและความจริงไม่รู้เรื่อง ถ้าเจอนายปิยบุตรมันที่ไหน ตบมันที่นั่นเลยดีไหมครับ? #เลวมาก #โง่มาก #ไอ้คว..ย #หนักแผ่นดิน #อยู่ไปก็รกโลก #ถ่วงความเจริญมานานเกินไปแล้ว