จากกรณีที่ วันที่ 18 ม.ค. 64 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?”
ขณะที่ทางด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการจัดหาวัคซีนโควิด-19 กรณีมีข่าวว่ารัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่ามีความล่าช้า และมีราคาแพง ไม่ครอบคลุมประชาชน รวมทั้งกระบวนการได้มาซึ่งวัคซีน ที่ถูกระบุวาไทยติดต่อวัคซีนเพียงบริษัทเดียว เป็นการการจัดหาวัคซีนของแอสตราเซเนก้า และสยามไบโอไซเอนซ์ ในเรื่องนี้
นพ.ศุภกิจ ระบุว่าหลังการระบาดของโควิด-19 รัฐบาลมองว่าวัคซีนโควิด-19 เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาด และการดำเนินการก็ไม่ได้ล่าช้า เพราะเริ่มกระบวนการตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา มีการตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนตามกลไก และยังมีคณะทำงานย่อย ซึ่งได้ศึกษาติดตามข้อมูลมาตลอด ซึ่งในเวลานั้นมีข้อมูลค่อนข้างจำกัด ที่ต้องคาดการณ์และวางแปน โดยไทยตั้งเป้าว่าปี 2564 หลังการทดลองเฟส 3 น่าจะได้มาฉีดให้ประชาชน ประมาณ 50% ของประชากร
ในส่วนของวัคซีนของแอสตราเซเนกา นอกจากการจองซื้อยังสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกิดการพัฒนาในไทยด้วย ในส่วนนี้เราได้วัคซีน 20% หรือ 26 ล้านโดส แต่ก็ยังเปิดทางให้ได้รับทางอื่นด้วย และยังคงศึกษาจากทุกเจ้าที่ผลิตวัคซีนเพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยเพราะต้องมีการทำข้อตกลง อีกทั้งเรายังไม่ได้ละเลยการสนับสนุนการผลิตเองในประเทศ เพราะถ้าสนับสนุนคนไทยทำได้ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ
ล่าสุด นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า
“ฟังแถลงเรื่องวัคซีนพระราชทานของปลัดก.สาธารณสุขและคณะ แล้วข้องใจมาก “ถ้าไม่ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ เราก็คงไม่พร้อมรับมือโควิด” หมายความว่ารัฐบาลยอมรับว่าล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์โควิด? งบไม่พอ ต้องรอรับบริจาค? แล้วเงินที่กู้มาเอาไปใช้ทำอะไร? #วัคซีนพระราชทาน ”
ต่อมา นายจอห์น วิญญู พิธีกรรายการชื่อดังบนโลกออนไลน์ ที่คอยเหน็บแนมรัฐบาลมาตลอด ได้รีทวีตข้อความของ นางสาวพรรณิการ์ ะร้อมกับทวิตข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวรับุว่า
“อะ ไม่ต้องเรื่องเจ้า เรื่องสถาบันก็ได้ เอาเงินภาษีประชาชนเยอะขนาดนี้ไปให้เอกชนทำไม? ได้เงินภาษี แล้วพอขายต่อใครได้ตังค์? #วัคซีนพระราชทาน”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ของคณะก้าวหน้าที่ได้ จัดทำโครงการ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ที่ดำเนินโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า และได้มีการเปิดรับเงินบริจาค ในบัญชีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หนึ่งในสมาชิกคณะก้าวหน้า โดยชี้แจงว่ายอดบริจาคได้มาทั้งหมด 7.2 ล้านบาท และจะมีการคัดเลือกโดยการสุ่มรายชื่อโอนเงินให้กับผู้ที่เดือดร้อน จำนวน 2,427 รายชื่อ รายละ 3 พันบาท
แต่กลายเป็นว่า“นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว” ออกมาแฉว่า ไม่ได้มีการโอนเงินกันจริง และสมทบมาด้วย “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” บุคคลในรายชื่อที่คณะก้าวหน้าอ้างว่าโอนเงินให้นั้น เป็นแค่อวตาร หรือไม่มีตัวตนจริง เป็นรายการ “แหกตา” และท้าทายให้มีการเปิดเผยรายชื่อและรายการโอนเงินออกมาให้เห็น
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ได้มีการสุ่มตรวจเหมือนกันจากรายชื่อที่อ้างว่าได้รับการโอนเงินบริจาค จากการตรวจสอบเพียงแค่ 15 รายชื่อ ก็พบว่าไม่ได้มีการโอนเงินจริง พร้อมท้าทายให้คณะก้าวหน้า เอาสเตทเมนต์มายืนยัน โดยให้เวลาถึงวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อพิสูจน์ความจริง
“หากไม่ดำเนินการ ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งประชาชนที่บริจาคก็สามารถเป็นเจ้าทุกข์เข้าไปแจ้งความได้” ซึ่ง ทาง นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ที่ออกมาแฉก่อนหน้านี้ ก็ยืนยันว่า เขามีสลิปอยู่ในมือ เนื่องจากเป็นคนหนึ่งที่ร่วมบริจาคร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีการชี้แจงใดๆถึงเงินบริจาคดังกล่าวของโครงการเมยเมย์เดย์จากปากของคณะก้าวหน้าและนางสาวพรรณิการ์แต่อย่างใด!?