ไบเดนมั่นใจปลอดภัยในวันสาบานตน?!? เคอร์ฟิวและทหารกว่า 25,000 นาย อารักขาDC และรัฐสภาเข้ม สยบจลาจลป่วนพิธีอยู่หมัด 

1953

วันที่ 20 ม.ค.2564 โจ ไบเดนจะเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน ทั้งโรคระบาด โควิด-19 กลายพันธ์ุ ที่ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลายลง แม้มีวัคซีนต้านแล้วถึง 2 ตัว การฟื้นฟูเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาผิวสี  ภายใต้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดรอบวอชิงตันดีซี และรัฐสภาด้วยกำลังทหารกว่า 25,000 นายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ความตึงเครียดได้แผ่ขยายไปอีก 50 รัฐที่คาดว่าจะเกิดการประท้วงติดอาวุธ มีการจัดกำลังตำรวจทหารเตรียมรับเต็มที่บางเมืองประกาศภาวะฉุกเฉินด้วย

รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหมคริส มิลเลอร์ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.2564  ว่า เพนตากอนยังไม่เห็นสัญญาณ หรือข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากภายในหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือกองทหารพิทักษ์มาตุภูมิซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลงานพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ โจ ไบเดน ในวันที่ 20 ม.ค.2564แต่อย่างใด แต่เพื่อไม่ประมาท ทหารทุกนายที่ส่งไปอารักขารัฐสภาและร่วมในพิธีสาบานตนที่วอชิงตันดีซี ต่างได้รับการตรวจสอบประวัติย้อนหลังอย่างเข้มข้นจากเอฟบีไอ

มิลเลอร์กล่าวว่า”การเตรียมครั้งนี้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีขอบเขตของการปฏิบัติการที่ไม่ซ้ำซ้อน หน่วยพิทักษ์มาตุภูมิประจำวอชิงตันดีซี จะให้การฝึกอบรมเพิ่มเติมแก่ทหารพิทักษ์มาตุภูมิจากต่างเมือง ในการปฏิบัติงานเมื่อพวกเขามาถึง หากพวกเขาเห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่เหมาะสม ต้องรายงานตรงต่อสายการบังคับบัญชาของพวกเขา”

มูลเหตุหนึ่งที่เอฟบีไอและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกังวลว่าจะมี การแอบแฝงในกำลังพล เพราะในการก่อจลาจลบุกรัฐสภาวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีบางส่วนมีลักษณะเกียร์ว่าง และการส่งหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิมาระงับเหตุ เป็นไปอย่างล่าช้า  ที่สำคัญกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ และเหล่าสาวกขวาจัดได้ทวิตข้อความปลุกระดมชักชวนให้ก่อความรุนแรงทั่ว 50 มลรัฐ ช่วงก่อนและหลังพิธีสาบานตนด้วย ผู้เชี่ยวชาญสงครามสหรัฐสังกัดหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิถึงกับ ประเมินว่า เป็นลักษณะการก่อการร้ายที่อาจไม่ระเบิดในระยะสั้น แต่อาจยืดเยื้อยาวนาน

สถานการณ์ตึงเครียดไม่ได้มีแค่ที่เมืองหลวงวอชิงตันดีซีเท่านั้น

ที่นิวยอร์ก  ร้านสตาร์บัคบางแห่งประกาศปิดทำการในวันพิธีสาบานตน เพราะกระแสการประท้วงและความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในวันพิธีสาบานตนของโจ ไบเดน บริษัท ที่ตั้งอยู่ในซีแอตเทิลกล่าวว่าได้ดำเนินการปิดชั่วคราวเนื่องจากมีคนจำนวนมากที่ทำงานในร้านค้าอาศัยอยู่นอกแมนฮัตตัน และอาจติดขัดจากการเดินทางกลับบ้านหากมีการประท้วงเพื่อทำลายและทำให้บริการขนส่งสาธารณะหยุดชะงัก ร้านค้าหลายแห่งเตรียมปิดเช่นกัน

รัฐแมรี่แลนด์ ผู้ว่าการรัฐฯแลร์รี่ โฮแกน ประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับรัฐของเขาก่อนวันทำพิธีสาบานตนของปธน.โจ ไบเดน ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นโดยรอบ ภาวะฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้ทันทีและมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้รัฐแมรี่แลนด์ประสานงานการสนับสนุนไปยังเขตอำนาจศาลท้องถิ่นและรัฐใกล้เคียง โดยประกาศภาวะฉุกเฉินที่วอชิงตัน ดีซีก่อนหน้านี้ และสั่งให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางเพื่อช่วยเตรียมการสำหรับพิธีสาบานตน หลังเกิดเหตุจลาจลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  ทำให้ความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ในการเตรียมการรักษาความปลอดภัยของพวกเขาสั่นคลอน 

รัฐนิวเจอซี่ มีคำสั่งให้คนทำงานหยุดอยู่บ้านในวันสาบานตน ของ โจ ไบเดน เพื่อให้ทางการเตรียมรับมือหากเกิดเหตุไม่สงบในพื้นที่ มีการเตรียมกำลังตำรวจอารักขาสถานที่ทำการของรัฐอย่างเข้มงวด