จากกรณี ที่เพจ Act4dem – Action for People’s Democracy ได้แพร่ภาพสดพร้อมระบุข้อความว่า “ไลฟ์สดแถลงเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอบทุกคำถาม ที่สังคมค้างคาใจ”
“บัดนี้ ทีมงานบริหาร Act4Dem ได้พบเห็นความไม่โปรงใสและอาจนำไปสู่ความทุจริต ของคุณจรรยายิ้ม ประเสิรฐ ทางทีมงานจึงขอยึดอำนาจการบริหารเพจ Act4Demไว้ ณ ที่นี้ อนึ่งหากผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคให้กับ Act4Dem ขอให้หยุดการบริจาคของท่านไว้ ณ ที่นี้ จนกว่าทางทีมงานจะตรวจสอบความโปร่งใส จนแล้วเสร็จ”
ต่อมา ทางเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า “องค์กรฟินแลนด์มาเปิดรับบริจาคเถื่อนในเยอรมัน โดยไม่มีใบอนุญาต ทำการรับบริจาคไม่โปร่งใส ไม่ชี้แจงยอดรับบริจาค นำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว แล้วพอทีมงานจิกจี้ให้โปร่งใสทางการเงินจรรยากลับจะแจ้งความทีมงานหาว่าข่มขู่คุกคาม มันใช่หรอคะคิดดีๆนะคะ?”
ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก Act4dem – Action for People’s Democracy เป็นเพจขององค์กร Act4Dem ที่ นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ ผู้ลี้ภัยข้อมาตรา 112 ได้จัดตั้ง ร่วมทำงานกับองค์กร/บริษัท PixelHelper ทำกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยในเยอรมัน และมีการหารายได้จากเงินบริจาคของคนรักประชาธิปไตย ซึ่งได้เกิดข้อขัดแย้งในความไม่โปร่งใสของเงินบริจาค จนททีมงานต้องออกมาแฉกันเอง นอกจากนี้ อั้ม เนโกะ ผู้ลี้ภัยอีกราย เคยออกมาแฉถึงการหากินกับเงินบริจาค ของนางจรรยาและองค์กร Act4Dem
นางจรรยา เป็นภรรยาของนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เป็นหนึ่งในผู้ที่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่เรียกเข้ารายงานตัวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดี ม.112 ด้วย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแแรกที่บรรดาองค์กรแอบอ้างเอาประชาธิปไตยบังหน้า เพื่อหากินกับเงินบริจาคของบรรดาสาวก โดยหลายๆองค์กรได้มีการขายอุดมการณ์สุดโต่งเพื่อล่อซื้อผู้คนให้หลงเชื่อและบริจาค แต่กลับไม่มีการแจกแจงรายได้และแสดงความโปร่งใส
อย่างกรณี ของคณะก้าวหน้าที่ได้ จัดทำโครงการ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ที่ดำเนินโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า และได้มีการเปิดรับเงินบริจาค ในบัญชีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หนึ่งในสมาชิกคณะก้าวหน้า โดยชี้แจงว่ายอดบริจาคได้มาทั้งหมด 7.2 ล้านบาท และจะมีการคัดเลือกโดยการสุ่มรายชื่อโอนเงินให้กับผู้ที่เดือดร้อน จำนวน 2,427 รายชื่อ รายละ 3 พันบาท
แต่กลายเป็นว่า“นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว” ออกมาแฉว่า ไม่ได้มีการโอนเงินกันจริง และสมทบมาด้วย “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” บุคคลในรายชื่อที่คณะก้าวหน้าอ้างว่าโอนเงินให้นั้น เป็นแค่อวตาร หรือไม่มีตัวตนจริง เป็นรายการ “แหกตา” และท้าทายให้มีการเปิดเผยรายชื่อและรายการโอนเงินออกมาให้เห็น
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ได้มีการสุ่มตรวจเหมือนกันจากรายชื่อที่อ้างว่าได้รับการโอนเงินบริจาค จากการตรวจสอบเพียงแค่ 15 รายชื่อ ก็พบว่าไม่ได้มีการโอนเงินจริง พร้อมท้าทายให้คณะก้าวหน้า เอาสเตทเมนต์มายืนยัน โดยให้เวลาถึงวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อพิสูจน์ความจริง
“หากไม่ดำเนินการ ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งประชาชนที่บริจาคก็สามารถเป็นเจ้าทุกข์เข้าไปแจ้งความได้” ซึ่ง ทาง นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ที่ออกมาแฉก่อนหน้านี้ ก็ยืนยันว่า เขามีสลิปอยู่ในมือ เนื่องจากเป็นคนหนึ่งที่ร่วมบริจาคร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
ซึ่งก่อนหน้านี้ สมัยยังเป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่ ก๊วนคณะก้าวหน้าก็ได้ถูกแฉเรื่องทำนองนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยน.ส.วิภาพรรณ วงษ์สว่าง หนึ่งใน 26 ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และเป็นแกนนำเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่แฉ
โดย นางสาววิภาพรรณ ได้ประกาศ ลาออกจากพรรค เพราะถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หยุดกิจกรรมทั้งหมดด้วยเหตุผลที่ว่า “การใช้งบประมาณในทางที่ไม่เหมาะสม”
เธอจึงเรียกร้องให้พรรคอนาคตใหม่ ทบทวนประกาศยุบเครือข่ายเยาวชน-คนรุ่นใหม่(NGN) โดยให้เหตุผลตามความเป็นจริง และช่วยชี้แจงว่า “การใช้งบประมาณในทางที่ไม่เหมาะสม”คืออะไร? เป็นอย่างไร? อย่ากล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน แต่พรรคอนาคตใหม่นิ่งเฉย ไม่สนใจคำเรียกร้องของเธอ เธอจึงออกมาเปิดเผยว่ากลุ่ม NGN ของเธอ ถูกตัดสินโดยคณะทำงานที่เธอมีปัญหาด้วย (คณะของปิยบุตร) และนางสาววิภาพรรณออกมาเปิดเผยกรณี “การใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสม” ซึ่งเอืัอประโยชน์ต่อ บ. โค-โลคัล (ที่อยู่เดียวกับ บ.ฟ้าเดียวกัน) ที่ บ.นี้ถือหุ้นโดย นายธนาพล อิ๋วสกุล – ครอบครัวซึ่ง ธนาพล อิ๋วสกุล ก็เป็นเพื่อน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยจัดนิตยสารฟ้าเดียวกัน ได้เป็นคนจัดงานอีเวนท์เปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ กรณีเช่าจอ LCD เกินจากราคาทั่วไป 500,000 บาท..ทั้งๆที่.#เคยมีการค้านเรื่องราคาจัดประมูลงานอีเวนท์เปิดตัวพรรคอนาคตใหม่