ขั้วอำนาจล่มสลาย! อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ชัดสหรัฐฯ เป็นผู้แพ้ ไม่กล้าสู้ “ปูติน” แฉงานนี้ พันธมิตรแห่เท “ไบเดน”!?

สืบเนื่องจากกรณีที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนระยะแรกสิ้นสุดลงแล้ว โดยสามารถบรรลุเป้าหมายเบื้องต้นได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่วางไว้ และนับแต่นี้ไปกองทัพรัสเซียจะปรับแผนการสู้รบใหม่ โดยจะมุ่งเป้าพิชิตสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครนเป็นหลักนั้น

ล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุถึงประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า จบภารกิจ ผู้บัญชาการรบของรัสเซียแถลงว่า ภารกิจแรกของรัสเซียในการปฏิบัติการทางทหารในยูเครนสำเร็จแล้ว

สามารถทำลายกองกำลังป้องกันตนเอง กองทัพอากาศและกองทัพเรือไม่เหลือเป็นอันตรายต่อรัสเซีย รวมทั้งแจ้งตัวเลขความสูญเสียของทหารรัสเซีย เสียชีวิต พันสามร้อยกว่าคน บาดเจ็บอีกสามพันกว่าคน รวมทั้งบอกด้วยว่า ทหารยูเครนเสียชีวิตมากกว่าสามหมื่นคน แต่ตัวเลขนี้แตกต่างจากฝ่ายยูเครนที่อ้างว่า รัสเซียสูญเสียทหารหมื่นหกพันคน

ในลำดับต่อไปหรือจะเรียกว่า เสตทที่สอง คือการสถาปนาความมั่นคง ความปลอดภัยให้กับเขตดอนบาส และไครเมีย ซึ่งปูตินเคยประกาศแล้วว่า จะไม่ยึดครองยูเครน แต่ต้องการความปลอดภัยให้เขตดอนบาส จุดมุ่งหมายของปฏิบัติการครั้งนี้ น่าจะเป็นการสถาปนาความมั่นคง ปลอดภัยให้กับรัสเซียและเขตดอนบาส ผลประโยชน์สูงสุดของรัสเซีย คือ ฐานทัพเรือที่ออกสู่ทะเลดำและฐานจรวดในไครเมีย

เดาใจว่า รัสเซียน่าจะต้องสร้างเขตความมั่นคงให้กับเขตดอนบาส และไครเมีย ด้วยการสร้างเขตปลอดภัยหรือจะเรียกว่าขยายแนวพรมแดนไปทางตะวันตกของยูเครนมากขึ้นกว่าเขตดอนบาส อาจจะยึดแนวเส้นทางออกทะเลของยูเครน เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน

การรบครั้งนี้กองเชียร์อาจไม่สะใจ ทำไมรัสเซียคืบหน้าช้า ทำไมไม่บดขยี้ กรุงเคียฟไม่แตกซักที แต่รัสเซียได้สร้างความเสียหาย ความบอบช้ำอย่างมากต่อกายภาพบ้านเรือน ที่ตั้งทางทหาร ขีดความสามารถทางการรบของยูเครนจน ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นภัยคุกคามรัสเซียไปอีกนานมาก

แต่คนที่แพ้กลายเป็นอเมริกา พันธมิตรถอยห่าง ไม่ร่วมจนท้ายด้วย เนื่องจากไม่กล้าตัดสินเผชิญหน้ากับรัสเซีย ทำให้พันธมิตรเล็งว่าไร้น้ำยา พันธมิตรสูญเสียความเชื่อมั่นในการนำของอเมริกา ซึ่งตรงข้ามกับมาดผู้นำของปูตินที่เด็ดขาดกว่า กล้าได้กล้าเสีย การแซงชั่นรัสเซียทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่รัสเซียเดือดร้อนฝ่ายเดียว สหรัฐและพันธมิตรนาโตก็เดือดร้อนมากและอาจจะมากกว่ารัสเซียด้วยซ้ำ หรือนี่คือ จุดล่มสลายของขั้วอำนาจเดี่ยว ที่จะไม่หวลกลับมา