จากที่วันนี้ 13 มกราคม 2564 นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ สื่อมวลชนอาวุโสชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กSermsuk Kasitipradit ระบุหัวข้อ นิติสงคราม กลั่นแกล้งทำลาย !!!!
ทั้งนี้โดยมีเนื้อหาบางส่วนที่เปิดเผยว่า สำนวนสอบสวนคดีธนาธร ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.บัญชีโดยที่ขาดคุณสมบัติ ถึงมืออัยการแล้ว หลังกกต.สรุปผลการสอบสวนผิดกฎหมายพรป.เลือกตั้งส.ส.มาตรา151 มีโทษอาญาหนึ่งถึงสิบปี หากอัยการเห็นตามที่กกต.ร้องส่งฟ้องศาลอาจมีคุก
ก่อนหน้านี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เปิดเผยมีกำหนดเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 10.00 น. โดยมีข้อความบางส่วนระบุว่า
“หากยังจำกันได้ ช่วงสัปดาห์นี้เป็นเวลาครบ 1 ปีพอดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีหุ้นวีลัค สั่งให้ผมหลุดออกจากการเป็น ส.ส.จนถึงตอนนี้ ดูท่า กกต. จะเดินหน้าเอาผิดทางอาญากับผมต่อไปอย่างเต็มสูบ ในข้อหาว่า รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
“หรือถ้าพูดสรุปง่ายๆ ก็คือ กกต. แจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีอาญาต่อผมในประเด็นที่ว่า “รู้อยู่แล้วว่าตัวเองขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ที่โดนข้อหานี้ฟาดฟัน ท่ามกลางข้อครหาของสังคมว่ากระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระมีมาตรฐานในการดำเนินการด้วยความเป็นธรรมมากน้อยเพียงใด แต่ในเมื่อตัดสินใจมาทำงานการเมืองแล้ว เราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าหนทางจะต้องลำบากลำบนมากแค่ไหน จึงไม่มีทางถอย-ไม่มีวันหยุด อยู่แล้ว”
ต่อมาวันที่ 24 พ.ย.63 ที่สน.ทุ่งสองห้อง การรายงานตัวตามหมายเรียกของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในคดีที่ กกต. แจ้งความให้ดำเนินคดีนายธนาธร ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 มาตรา 151 กรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
โดยนายธนาธร กล่าวว่า มารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีที่ กกต.แจ้งความไว้ โดยจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตอนนี้ยังมีกำลังใจดี ไม่ว่าจะเรื่องคดีความต่างๆ หรือการที่มีกลุ่มบุคคลพยายามมาระรานสิทธิเสรีภาพการเดินทางของตน หลังจากนี้ก็จะทำงานอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ ไม่หวาดหวั่นสิ่งที่เข้ามาคุกคาม
หากย้อนไปที่มาของคดีตั้งแต่ 10 มีนาคม 2563 โดยที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีมติให้สำนักงาน กกต.ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจทุ่งสองห้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณี รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แต่ยังใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ผิดมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)
จากกรณีถือหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อกกต. โดยโทษตามมาตรา 151 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ขณะที่การพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง ทางสำนักงานกกต.ได้มีการเสนอเรื่องให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา ซึ่งคดีอาญาต้องมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนาว่าขณะที่นายธนาธร ยื่นลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่นั้น นายธนาธรรู้ว่าตนมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) แต่ยังคงสมัคร พยานหลักฐานประกอบจึงต้องมีน้ำหนักเพราะการสู้คดีก็ต้องสู้กันถึง 3 ศาล
อย่างไรก็ตาม การแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจากเหตุนี้ไม่ใช่นายธนาธร เป็นคนแรกที่กกต.ดำเนินการ โดยก่อนหน้านี้ผู้สมัครส.ส. ที่กกต.มีคำวินิจฉัยว่ารู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะมีลักษณะต้องห้ามเช่น สังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองเดียวไม่ถึง 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง กกต.ก็จะมอบให้สำนักงานกกต.ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ทุ่งสองห้อง เช่นเดียวกัน
สำหรับคดีการถือหุ้นวี-ลัค มีเดียของนายธนาธร กกต.มีมติเอกฉันท์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ จากกรณีดังกล่าว และศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้พิจารณา เมื่อ 23 พ.ค.2562 เป็นเหตุให้ นายธนาธรต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเป็น ส.ส. กระทั่ง 20 พ.ย.2562 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 7 ต่อ 2 ให้ความเป็น ส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุด สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)