จากกรณีวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อจลาจล โดยการบุกสภาคองเกรส ทำให้ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันดีซีต้องประกาศเคอร์ฟิว เพื่อขัดขวางการประชุมลงมติรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน จนล่มกลางคัน บรรดาส.ส.ต้องอพยพออกจากห้องประชุม ตามมาด้วยเหตุรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายทรัมป์ยังได้มีการทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ปลุกระดมว่า “ผมเข้าใจความเจ็บปวดของท่าน เข้าใจความเจ็บใจ แต่ท่านต้องกลับบ้านได้แล้ว” อย่างไรก็ตามข้อความต่อมายังชื่นชมว่าเป็นมวลชน “สุดพิเศษ” ที่ร่วมต่อต้านการโกงเลือกตั้ง
ขณะที่ ทางด้านนายไบเดนมีการประณามมวลชนที่ใช้ความรุนแรงกลุ่มนี้ว่า “การโจมตีอาคารรัฐสภาไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้อง แต่เป็นการก่อจลาจล ประชาธิปไตยนั้นเปราะบาง การจะปกป้องไว้ให้ได้ จะต้องอาศัยผู้นำที่อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่ออำนาจของตัวเอง”
เรื่องนี้เอง ต่อมาทางด้านของ สื่อโซเชียล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ได้ทำการตัดสินใจระงับบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีการแพร่ข่าวสารหรือข้อมูลชักจูงให้เกิดการชุมนุม และก่อเหตุความรุนแรง โดยทวิตเตอร์ได้ทำการซ่อน และลบข้อความของ โดนัลด์ ทรัมป์ บางส่วนออกไป ซึ่งข้อความที่ถูกลบก็จะเป็นข้อความที่ ทรัมป์ ปลุกระดมให้เกิดการชุมนุม และยังได้ทำการระงับการใช้งานชั่วคราวอีกด้วย
ในส่วนของ เฟซบุ๊กได้ประกาศบล็อกบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการชั่วคราว โดยหากว่ายังมีข้อความก่อให้เกิดความรุนแรงอีกทางด้านของ ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก จะทำการปิดบัญชีอย่างถาวร รวมถึงทางด้านของ อินสตาแกรม ก็ยังได้ทำการแบนบัญชีชั่วคราวด้วยเช่นกัน
อีกทั้งทางด้านของ ยูทูป ก็ได้ทำการลบคลิปวิดีโอ ที่ทางด้านของ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าถูกโกงการเลือกตั้งออกด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าได้พิจารณาแล้ว คลิปดังกล่าวมีส่วนในเรื่องของการยั่วยุ ก่อให้เกิดความรุนแรง และการชุมนุมที่ผ่านมา
ด้านของ องค์กรด้านสิทธิพลเมือง The Anti-Defamation League และ Color of Change ได้ออกมาเคลื่อนไหวให้ทำการแบนบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการถาวร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
ซึ่งต่างกับ ประเทศไทย อย่างชัดเจนไม่ว่าแกนนำ หรือผู้มีส่วนร่วมกับการชุมนุม จะทำการชักชวนเชิญชวน ยั่วยุให้เกิดการชุมนุมรุนแรงอย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยปิดหรือระงับการใช้งานบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้งที่หลาย ๆ บัญชีค่อนข้างมีการโจมตีในเชิงจ้องล้มล้างทำลายระบอบประเทศชาติ ซึ่งมีความร้ายแรงไม่ต่างจากประเทศสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดย NGO และ สื่อโซเชียล เลือกที่จะระงับในทันที สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในประเทศไทย กลับปล่อยให้ไฟลามทุ่งเป็นเวลาหลาย ๆ เดือน จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยระงับ ไอดีของกลุ่มแกนนำ หรือเพจล้มล้างสถาบัน ที่คอยป้อนข้อมูลบิดเบือน เหมือนกับว่าต้องการให้ประเทศไทย อยู่ในวิกฤต ทั้งที่มีสิทธิระงับเรื่องดังกล่าวได้
หลังจากที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม ของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่เป็นการใช้อาวุธจริง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลังจากเพียงแค่มีการเริ่มชุมนุมเพียงแค่ 5 ชั่วโมง แต่ที่น่าแปลกใจเป็นการใหญ่และถูกประเทศที่ถูก องค์กรจากสหรัฐเข้าแทรกแซง จำพวก NGO ต่าง ๆ ตั้งคำถามก็คือ
รวมถึงประเทศที่โดนประณามจากองค์กรต่าง ๆ แม้แต่รัฐสภาสหรัฐฯยังร่วมโจมตีด้วยก็คือ “ประเทศจีน” โดยทั่วโลกที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ต่างมองว่า กลุ่มผู้ชุมนุมฮ่องกง เป็นการชุมนุมที่สวยงาม แต่จากคำพูดดังกล่าวกลับเป็นเหมือนหอกแหลมคมที่พุ่งกลับไปแทงเข้าที่อกของตัวเอง
เมื่อทางด้านของ หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ โกลบอลไทมส์ ของทางการจีน ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบที่เรียกได้ว่าเป็นตลกร้าย โดยการนำภาพการชุมนุมในฮ่องกง ที่ผู้ประท้วงบุกยึดห้องประชุมสภานิติบัญญัติเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 เปรียบเทียบกับภาของผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา
พร้อมกับตั้งคำถามกับ “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เคยเรียกภาพเหตุการณ์จลาจลในฮ่องกงว่าเป็น “ภาพสวยงามที่ได้เห็น” แต่ทำไมถึงไม่พูดแบบเดียวกันกับการประท้วงที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ ในช่วงวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด มีการเผยแพร่ ข้อความจากเฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ของ เจริญสุข ลิมป์บรรจงกิจ โพสต์ข้อความว่า ขรรมส์ Time Magazine ทีอย่างนี้ขึ้นปกหรา “Democracy under attack “ประชาธิปไตยถูกโจมตี””
จากกรณีม็อบหนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐ แต่ถ้ากรณีแบบเดียวกันกับประเทศอื่น กลับชอบพาดหัวข่าว “ประชาธิปไตยอันสวยงาม” หรือ “ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน”
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นการแชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวจะเห็นว่า Time Magazine พาดหัวแรก สำหรับม็อบบุกรัฐสภาสหรัฐฯว่า “ประชาธิปไตยถูกโจมตี” ขณะที่เมื่อทีม็อบฮ่องกงเลว กลับบอก “การต่อสู้เพื่อฮ่องกง-ราคาที่จีนต้องจ่าย เพื่อประชาธิปไตย” ในขณะที่ ม็อบสหรัฐบุกสภา(หนุนทรัมป์) ตำรวจ เจ้าหน้าที่ยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิต กลับพาดหัว ประชาธิปไตยถูกโจมตี??
สำหรับ ไทม์ (Time หรือตามเครื่องหมายการค้าคือ TIME) เป็นนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐอเมริกา เริ่มพิมพ์ฉบับแรก โดยเป็นนิตยสารข่าวรายสัปดาห์เล่มแรกของประเทศ โดยในปัจจุบันไทม์มีจัดพิมพ์หลายแห่งทั่วโลก โดยในยุโรปใช้ชื่อว่า “ไทม์ยุโรป” (หรือที่ในอดีตเรียกว่า ไทม์แอตแลนติก) มีสำนักงานอยู่ที่ลอนดอน และออกจำหน่ายในยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมถึงละตินอเมริกา ส่วนในเอเชีย ใช้ชื่อว่า “ไทม์เอเชีย” มีสำนักงานที่ฮ่องกง ขณะที่ “ไทม์แคนาดา” เป็นฉบับสัญชาติแคนาดาซึ่งจัดจำหน่ายในประเทศแคนาดา และ “ไทม์เซาท์แปซิฟิก” ซึ่งจัดจำหน่ายครอบคลุมออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะแปซิฟิก มีสำนักงานอยู่ที่ซิดนีย์
ในปัจจุบัน นิตยสารไทม์จัดการโดยบริษัทไทม์วอร์เนอร์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก และมีนายริชาร์ด สเตนเจล เป็นบรรณาธิการบริหาร