จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือกลุ่มเพจเฟสบุ๊คที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการขับเคลื่อน ปลุกระดมให้เยาวชนรวมทั้งประชาชนออกมาชุมนุมบนท้องถนนเพื่อชุมนุมเรียกร้อง
โดยมีการชุ 3 ข้อเรียกร้องคือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูย รวมไปถึงการปฏิรูปสถาบัน ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้ในการเคลื่อนไหว นัดหมายการชุมนุมต่างๆมาโดยตลอด รวมไปถึงการโพสต์ข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างร้ายแรง
ล่าสุด ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ก มารน้อย บูรพา ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีแอดมินเพจของกลุ่มปลดแอก ที่มีการเคลื่อนไหวซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มแอดมินเพจดังกล่าวน่าจะเป็นพวกที่หนีคดีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุข้อความว่า
โลกรู้ พี่อึ้งก็รู้นะจ๊ะแอดมิน คณะประชาชนปลดแอก ทั้ง 7 คงจะไม่ได้นั่งปั่นหัวเด็กรุ่นใหม่สบาย ๆ เหมือนก่อน ใครเป็นใครใช้อวตารปลอมตัวไหน ไม่นานฝ่ายความมั่นคงก็คงรู้ข้อมูล
แต่ดูจากรายชื่อแล้ว เชื่อว่าแอดมินบางคนน่าจะเป็นพวกหนีคดีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าหากเชื่อมโยงกันจริงนักโทษชายหนีคดีทักษิณที่มันบอกว่าวางมือทางการเมือง พีอึ้งบอกเลย”มันตอแหx” และมันกำลังจะสร้างความวุ่นวายครั้งใหม่ เพราะพวกหนีคดีที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านนั้น เป็นพวกแดงฮาร์ดคอร์ที่หนีคดีออกไป
แสดงว่าเบื้องหลังพวกสัxกะหมา ก็คือสัxกะหมาหน้าเหลี่ยมตัวเดิมชัดเจน
ซึ่งในโปรไฟล์ของแอดมินเพจ มีการปรากฎสถานที่ระบุว่า อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ที่พนมเปญกับเสียมราฐ ซึ่งก็มีการตั้งคำถามและตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มแอดมินเพจทั้ง 7 คนนั้น จะเป็นเครือข่ายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ ที่ได้สถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง หลังจาก 8 มิถุนายน 2557 หรือหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 โดยนายวันเฉลิม ทำงานเป็น NGO เกี่ยวกับเยาวชนด้านเอชไอวี/เอดส์ และเป็นแอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” เมื่อครั้งเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553
นายวันเฉลิม ปฏิเสธที่จะเข้ารายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังรัฐประหาร โดยเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ถูกเรียกคสช.เรียกให้ไปรายงานตัว จึงมีการออกหมายจับในข้อหาฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และยังรวมไปถึงหมายจับคดีผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 กรณีโพสต์ข้อความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด และยังเป็น 1 ใน 14 ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อปี 2558 ด้วย ซึ่งในขณะที่นายวันเฉลิม แม้ว่าจะอยู่ในประเทศกัมพูชาแต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยเป็นแอดมินเพจล้อการเมืองหลายเพจที่ขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวอยู่ในโลกโซเชียลมาโดยตลอด
จนกระทั่ง วันที่ 4 มิถุนายน แหล่งข่าวได้เผยว่าวันเฉลิมถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดฯ ที่พักอาศัย ในกรุงพนมเปญเมื่อเวลา 17.54 น. ขณะเดินลงมาซื้อลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโดฯ มีการเล่าด้วยว่า ขณะเกิดเหตุเขาโทรศัพท์คุยกับวันเฉลิม โดยเสียงสุดท้ายที่ได้ยินจากวันเฉลิมผ่านโทรศัพท์คือ “โอ๊ย หายใจไม่ออก” ก่อนสายจะตัดไป แต่ในขณะนั้นเขาเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุ และวันเฉลิมบาดเจ็บ จึงพยายามโทรกลับไปถามอีกประมาณครึ่งชั่วโมง รวมทั้งติดต่อเพื่อนของวันเฉลิมให้ช่วยตรวจสอบที่คอนโดฯ จึงทราบว่าวันเฉลิมหายไป
ซึ่งการหายตัวไปของวันเฉลิม ก็ทำให้เกิดกระแสปลุกระดมสาวกปลดแอก ซึ่งอาจจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ม็อบออกมาเรียกร้อง ทวงความยุติธรรม ให้กับวันเฉลิม คาดว่านายวันเฉลิมก็น่าจะเป็นตัวการสำคัญในการเคลื่อนไหวทางการเมืองในโลกโซเชียลมิเดีย ก็เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า แท้ที่จริงแล้ว การหายตัวไปของวันเฉลิมจะเป็นการจัดฉาก ตามที่นักวิชาการหลายคนได้คาดการณ์หรือไม่
