นักเขียนซีไรต์ ซัดหน้า ทราย เจริญปุระ หลังโชว์ตรรกะว่าด้วยความเชื่องเชื่อ

4408

ยังคงเคลื่อนไหวทางการไม่หยุดหย่อนสำหรับ น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ ที่เมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ทราย เจริญปุระ ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่าประโยคที่ทำให้โดนแจ้งจับครั้งนี้คือ “กล้ามาก เลยนะเธอ” และ “ฉันคงไม่กลับไปรักเธอ”

โดยก่อน ทราย เจริญปุระ ก็เคยโพสต์หมายเรียกผู้ต้องหา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า โอเคนัมเบอร์วัน! ซึ่งทางสน.บางเขนได้นัดให้ไปรายงานตัวที่ สน.บางเขน วันที่ 21 ธ.ค. 2563

ในการสอบปากคำ ทราย เจริญปุระ ตำรวจจะสอบปากคำในประเด็นการโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ที่มีลักษณะปลุกระดมให้มีการชุมนุม ตั้งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงประเด็นการใช้เงินสนับสนุนจัดให้มีการชุมนุมด้วย

และล่าสุด ที่ ทราย เจริญปุระ ให้สัมภาษณ์ สื่อดังว่า “คนที่อยู่ไปวัน ๆ เพื่อที่อีกไม่นานก็ตายตกตามกันไป และไม่รู้จักสงสัย ไม่รู้จักตั้งคำถาม เขาสั่งให้ทำให้เชื่ออะไรก็ก้มหน้าทำไปแบบนั้น ย่อมรู้สึกว่าการเชื่องเชื่อมันง่าย แต่คุณจะบังคับให้คนอื่นเชื่องเชื่อไม่ได้”

ล่าสุด วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความหัวข้อ “ว่าด้วยความเชื่องเชื่อ” ดังนี้ ไม่มีใครสั่งใครให้เชื่องเชื่อต่อใครหรอก​ และก็ไม่มีใครเชื่องเชื่อต่อใครอย่างไร้หัวคิดเช่นกัน มีก็แต่ความสำนึกต่อบุญคุณของบุคคลที่ได้เสียสละชีวิตส่วนตัวเพื่อผู้อื่น​ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วแก่วิญญูชนทั่วไป ถ้าจะมีการเชื่องเชื่อ..ก็เป็นการเชื่องเชื่อต่อลัทธิอุดมการณ์ต่าง ๆ และต่อความโง่งมของตน

ความเชื่องเชื่ิออย่างนี้มันลวงตาจนมองไม่เห็น..ว่ามันเป็นความเชื่องเชื่อ​ แต่กลับหลงเข้าใจว่าเป็นสติปัญญาและเสรีภาพที่จริงแท้ วิปลาสกว่านั้น..มันยังหลอกใช้คนที่เชื่องเชื่อต่อมันให้ออกมาแสดงวาทะที่โง่งม ด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจว่าตนเป็นผู้รู้แท้และอยู่เหนือผู้อื่น หล่อนจะเชื่องเชื่อหรือไม่เชื่องเชื่อต่อใครหรืออะไรย่อมเป็นสิทธิและเสรีภาพของหล่อน​ แต่หล่อนไม่มีสิทธิและเสรีภาพที่จะเหยียดหยามเหยียบย่ำหัวใจคนทั้งประเทศ​ (ไม่นับรวมพวกหล่อน)​ และไม่มีสิทธิและเสรีภาพที่จะเหยียดหยามเหยียบย่ำกฎหมายใด ๆ … ตราบที่มันยังเป็นกกฎหมายอยู่

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า ที่ผ่านมาทางด้านของ ทราย เจริญปุระ มีการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอยู่ตลอดมา รวทั้งเป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทค่อนข้างมาก เมื่อม็อบคณะราษฎร มีการเคลื่อนไหวชุมนุมในพื้นที่ต่าง ๆ เพราะว่าตัวของทราย เจริญปุระ นั้นจะเข้าไปเป็นแม่ยก จัดหาอาหารสนับสนุนผู้ที่ไปร่วมชุมนุม

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อกลุ่มแกนนำของม็อบโดนคดีต่าง ๆ เจ้าตัวก็ออกหน้าไปยังสถานีตำรวจ ประกาศเคียงข้าง เรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหล่าบรรดาแกนนำนั้น

และช่วงที่โควิด – 19 กำลังระบาดในไทยตอนนี้ เจ้าตัวก็ยังได้วิพากษ์วิจารณ์หลังจากที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา และได้พูดถึงหนึ่งประเด็นหลักที่หลายๆคนให้ความสนใจ และแชร์ออกไปในโลกโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือเรื่องที่ทางด้านของ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วอนอย่าเรียกว่า “โควิดระลอก 2” เพราะนี่เป็นการ “ระบาดใหม่”

ซึ่งในรูปประโยคดังกล่าวนี้นั้น หลาย ๆ คนเริ่มให้ความสงสัย ว่าคำพูดดังกล่าวของโฆษกศบค. คือการปัดความรับผิดชอบ พูดแก้ตัว และไม่เห็นถึงความแตกต่างของรูปประโยคดังกล่าวแต่อย่างใดเลย จึงทำให้หลาย ๆ คนที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล เริ่มออกมานำข้อความดังกล่าวไปโจมตี และใส่ความโดยไม่หาข้อมูลทางวิชาการว่า 2 คำนี้มีนัยแตกต่างกันอย่างไรหรือไม่

โดย ทราย เจริญปุระ แม่ยกของกลุ่มคณะราษฎร ที่ได้โพสต์ในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ว่า “ชอบที่หมอทวีศิลป์แถลงตะกี้ นักข่าวถามว่าติดวันเดียว500กว่าคน มากกว่าสถิติเดิมที่วันละ180จะเรียกว่าการระบาดระลอก2ได้ไหม แบบที่ศบค.เคยขู่ว่าระวังระบาดระลอก2 ทวีศิลป์ตอบว่า ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2เพราะไม่ได้ติดมาจากกลุ่มเดิม ให้เรียกว่าการระบาดระลอกใหม่ ไอสัส!จีเนียสสสสส!!!”