นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงช่วงหนึ่งว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศกระจายตัวไปแล้วทั้งสิ้น 58 จังหวัด
เพิ่มใหม่คือจังหวัดหนองบัวลำภู ดังนั้นสถานการณ์ภายในประเทศถือว่ายังปะทุอยู่ ไม่ได้ดับลงง่ายๆ สะเก็ดไฟไปที่ไหนเราต้องรีบดับให้เร็ว นี่คือเหตุผลที่เราไม่อยากให้ประชาชนเดินทาง การอำนวยความไม่สะดวกระหว่างเดินทาง ก็เพื่อขอให้เดินทางในกรณีจำเป็นเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 212 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 187 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 6 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 19 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 10,053 ราย ยอดหายป่วยสะสม 5,546 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 4,440 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 67 ราย โดยวันนี้ถือว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศแตะหมื่นวันแรก เพราะการติดเชื้อภายในประเทศในระยะหลังทะลุ 3 หลักทุกวัน กราฟชันเกือบตั้งตรงจะลดลงเมื่อไหร่ หากถามมาไม่ใช่วันนี้แน่ๆ เดือนหน้าก็ยังไม่แน่ใจ ถ้าจะให้มั่นใจทุกคนต้องร่วมมือกันเดี๋ยวนี้ และสถานการณ์โลกในวันนี้มีผู้ป่วย 89,355,076 ราย เพิ่มขึ้นวันเดียว 826,365 ราย เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันเดียว 301,655 ราย
ขณะผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลก 1,921,995 ราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียว 8 แสนกว่ารายถือว่าสูงมาก ในสหรัฐฯ 3 แสนกว่าในวันเดียวก็เกิดขึ้นแล้ว วันนี้ประเทศไทย 212 ราย จะให้เป็น 20 ราย เป็น 2 รายได้หรือไม่ เพราะถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ ตัวเลขอาจจะมากกว่านี้เป็น 2 หมื่น 2 แสนรายได้ ที่บอกว่าตนชอบขู่รายวันนั้นเพราะต้องการบอกข้อมูลตัวเลข อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่ถ้าจะพูดให้ซอฟลงคือตนมาเตือน ไม่ใช่กดดัน เพราะตนเป็นผู้เอาข้อมูลมาทำให้ประชาชนเข้าใจมากที่สุด.
อย่าไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งยอดผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น 8 ราย สะสมรวมอยู่ที่ 84 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่กลุ่มสุดท้าย และคาดว่าใน 2 สัปดาห์คงจะเห็นยอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ โดยใช้โรงพยาบาลป่าโมก ที่บริเวณตึก 5 ชั้นเป็นโรงพยาบาลสนาม และใช้อพาร์ตเมนท์ตึกสีเหลืองตรงข้ามวัดท่าอิฐ ริมถนนอ่างทอง-โพธิ์ทอง หมู่ 5 ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง เป็นสถานที่กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูง มีผู้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย
ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า “ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ (9 ม.ค.64) 8 ราย (รวมยอดผู้ติดเชื้อ 84 ราย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 1 ราย) สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในวันนี้เป็นยอดที่คงค้างจากการตรวจเชื้อในกลุ่มผู้เสี่ยงสูงที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่กลุ่มสุดท้ายกว่า 800 ราย ซึ่งพบ 8 ราย (คิดเป็นเพียง 1%) ทำให้วันนี้จังหวัดอ่างทองมั่นใจว่าสามารถควบคุมการแพร่กระจายในวงใกล้ชิดโดยตรงได้แล้ว และคาดว่าใน 2 สัปดาห์คงจะเห็นยอดผู้ติดเชื้อเป็น 0 หากไม่มีปัจจัยอื่นเพิ่มเติม ดังนั้นจึงเน้นย้ำว่าหากท่านเป็นผู้ที่เคยเดินทางไปยังสนามชนไก่ สนามซ้อม ซุ้มไก่ต่างๆในช่วงเวลาที่ผ่านมาขอให้มาตรวจคัดกรอง ไม่เช่นนั้นท่านอาจจะเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ได้ และจะกระทบการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวอ่างทองไม่มากก็น้อย”
ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีรายงานสถานการณ์โควิด -19 ประจำวันนี้ โดยพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 40 ราย เป็นชาย 20 ราย หญิง 20 ราย มีผู้ป่วยสะสมยืนยันสะสม 518 ราย เสียชีวิตสะสม 1
ผู้ป่วยใหม่จำแนกตามพื้นที่ อำเภอเมืองพบผู้ป่วย 1 ราย ,อำเภอบางละมุงพบผู้ป่วยใหม่ 4 ราย ,อำเภอศรีราชาพบผู้ป่วยใหม่ 35 ราย
ทั้งนี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan ถึงกรณีความเสี่ยงของวัคซีนโควิด ระบุว่า
“วัคซีน covid 19 อาการข้างเคียงของวัคซีน
ผมในฐานะที่เคยทำวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน ในอดีตมาร่วม 40 ปี
วัคซีนใหม่ ที่อยู่ระหว่างการวิจัย จะต้องถูกบันทึก อาการที่ไม่พึงประสงค์ ที่เกิดขึ้น หลังการให้วัคซีนทั้งหมด จะต้องถูกบันทึก และแบ่งเป็นความรุนแรงน้อย ปานกลาง และมาก
อาการเฉพาะที่ เช่นบริเวณที่ฉีด หรืออาการทั้งระบบ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ เมื่อยล้า
ความรุนแรงมาก ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต
จะต้องประเมินตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน มากน้อยแค่ไหน หรือ ไม่เกี่ยวข้อง มากน้อยแค่ไหน
ผมเคยฉีดวัคซีนให้คนไข้ในงานวิจัย แล้วได้รับแจ้งว่าคนไข้เสียชีวิต แต่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็ถือว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง ต้องรายงานทันทีและสอบสวน อย่างรวดเร็วว่าเกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ที่ฉีด อาจจะทำให้ง่วง หาวนอน แล้วเกิดอุบัติเหตุก็ได้
หรือ เมื่อฉีดวัคซีนแล้วเดินออกนอกโรงพยาบาล ตกท่อ ก็ถือว่าเป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ ต้องตรวจสอบ เพราะวัคซีนอาจจะทำให้ตามัว เวียนศีรษะ แล้วเดินตกท่อก็ได้
ดังนั้นในวัคซีนใหม่เกือบทุกชนิดจึงต้องมีการศึกษาในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และมีผู้มีความรอบรู้ เป็นกลาง มาประเมินรวมด้วย
ถึงแม้จะได้เริ่มนำมาใช้แล้วในช่วง 2 ปีแรก ก็ยังต้องมีการติดตามอาการข้างเคียง และ อาการไม่พึงประสงค์ต่อไป เพื่อหาอุบัติการณ์ ที่อาจเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
วัคซีนใช้ป้องกันโรคกับคนปกติ จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาก่อน ข้อมูลการศึกษาที่ต้องการ จึงเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ ในเรื่องของความปลอดภัย.”
