“หมอทวีศิลป์” ชี้ชัด เผยผังกราฟ 3 ฉากทัศน์ ถ้าไม่ทำอะไรเลย กลางเดือนม.ค. ติดโควิด-19 พุ่งทะลุหลักหมื่น

11340

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ​ (ศบค.) แถลงสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2563

ระบุว่าวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 155 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 134 คน พบใน State Quarantine 10 คน แรงงานข้ามชาติ (ตรวจค้นหาเชิงรุก) 11 คน รวมผู้ป่วยยืนยัน 6, 440 คน หายป่วยแล้ว 4,180 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเสียชีวิตสะสม 61 คน


โดยผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีความเชื่อมโยงกับจ.สมุทรสาครเพิ่ม อีก 12 คน และเคส จ.ระยองอีก 2 คน ส่วนอีก 17 คนเป็นผู้ป่วยสัมผัสกับกลุ่มเดิม ขณะที่ยังรอการสอบสวนการติดเชื้อเพิ่มอีกกลุ่มใหญ่ คือกทม. 3 คน นครปฐม 5 คน ลำปาง 1 คน ระยอง 56 คน ชลบุรี 28 จันทบุรี 3 คน และ สมุทรปราการ 7 คน ลำปาง 1 ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 103 คน


การติดเชื้อกระจาย 45 จังหวัดเดิม เมื่อวันที่ 18-20 ธ.ค.มีการติดเชื้อใน 6 จังหวัด แต่วันที่ 21-23 ธ.ค.ขยับเป็น 26 จังหวัดและวันที่ 24-26 ธ.ค. เพิ่มเป็น37 จังหวัด และวันที่ 27-29 ธ.ค.นี้เพิ่มเป็น 45 จังหวัด

และจากภาพฉากทัศน์การระบาดระลอกใหม่ ซึ่งทีมคณะทำงานระบาดวิทยาของกรมควบคุมโรค เสนอ 3 ฉากทัศน์ดังนี้ ฉากทัศน์แรก ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะพบว่าสีแดงระฆังคว่ำตัวเลขจะชันขึ้นเรื่อย ๆ และถึงวันที่ 14 ม.ค.64 จะมีผู้ป่วยต่อวัน 18,000 คน และจะเริ่มต้นจากขึ้นวันละ 1,000-2,000 คนจะชันขึ้นเรื่อย ๆ

แต่หากมีมาตรการกลาง ๆ คือเส้นกราฟสีเหลือง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 คนต่อวัน เรียกว่าสะสมไม่นานก็จะหลักหมื่นภายในไม่กี่วัน แต่ฉากทัศน์สุดท้ายคือกราฟสีเขียว ถ้าร่วมมือกัน ใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ จะน้อยกว่า 1,000 คนต่อวัน

นอกจากนี้ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก วิเคราะห์สถานการณ์แพร่ระบาดในไทย ขณะนี้แบ่งออก 2 แบบคือ 1. การติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคล คือรู้ว่าตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยง/กิจกรรมเสี่ยง และไม่รู้ และไม่ระมัดระวังว่าได้สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เช่น กรณีผู้ว่าฯสมุทรสาคร และ2.การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ซึ่งมีสาเหตจากการเข้าไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ การประชุม และกิจกรรมที่ลักลอบ เช่น การพนัน มั่วสุมทำให้เกิดการติดเชื้อตัวเลข 2 หลัก

ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (30ธ.ค.) ผู้ว่าฯกทม.และผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด จะต้องไปแบ่งส่วนพื้นที่ กำหนดโซนการแพร่ระบาด และมมาตรการคุมโรค ตามการจัดโซน 4 ระดับ ตั้งแต่ ควบคุมสูงสุด ไปสู่การเฝ้าระวัง โดยแบ่งโซนลงลึกไประดับ อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน

ยังคงมาตรการที่ศบค.ชุดใหญ่ประกาศ 4 พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวัง และที่ต้องเร่งดำเนินการเพิ่มคือทางจังหวัด ต้องหารือในจังหวัดให้แบ่งส่วนพื้นที่ต่างๆภายในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) ต้องแบ่งออกมาในระดับอำเภอ เช่น กรณีจ.ระยอง ขณะนี้พื้นที่ควบคุมสูงสุด คืออำเภอเมืองระยอง

ทั้งนี้ขอความร่วมมือ 7 วันหลังจากนี้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ จากเดิม 7 วันอันตรายจากอุบัติเหตุ แต่ 7 วันนี้ คงใช้มาตรการคุม COVID-19 หากยังละเลย ทำตัวสบาย ๆ ไม่ร่วมมือ เอกชนย่อหย่อน

และคอนเสิร์ตบางแห่ง ศบค.จะต้องทบทวนมาตรการทั้งหมด ยกระดับเพื่อคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม หาก 7 วันช่วงเทศกาลปีใหม่ยอดติดเชื้อพุ่งก็ต้องคุม แต่หากคุมได้มีวินัย ให้ความร่วมมือกันก็ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกคนมีอิสระ

ช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนเดินทางได้ เว้นพื้นที่จ.สมุทรสาคร ที่มีการล็อกดาวน์ แต่ขอให้ 45 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ มีมาตรการเข้ม ต้องยอมรับว่า ปีใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อัตราการติดเชื้อเพิ่ม 2-3 หลักต้องปรับตัว ไม่ถึงว่าต้องล็อกดาวน์ทั้งหมด แต่ต้องปรับตัวตามมาตรการคุมโรค