พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่ามีการส่งข้อมูลมาถึงนายกฯ ขอความร่วมมือกับบรรดานักการเมืองอย่าทำการเมืองในเรื่องของโควิด
วันนี้ (25 ธ.ค.63) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ว่า สิ่งที่น่ายินดีและน่าชื่นชม คือ สตช.ได้ปรับปรุงมาตามลำดับ ลดการใช้ดุลพินิจต่างๆ โดยมีเครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่เข้ามา อำนวยความสะดวกประชาชน ลดภาระ ลดภาระที่จะต้องมาสถานีตำรวจ ถือเป็นการพัฒนาร่วมกัน วันข้างหน้าถ้ามีการลงทะเบียนแจ้งความไว้ และนัดวันเวลามา เหมือนกับโรงพยาบาล จะสะดวกมากขึ้น นั้นคืออนาคตของเราที่จะเดินไปทีละขั้น ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือสตช.ยังขาดหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี รัฐบาลต้องหาทางสนับสนุนงบประมาณ
นายกฯกล่าวว่า ปีใหม่นี้มีของขวัญให้เยอะ อย่าบอกว่าของขวัญที่ให้คือการจับกุมนะ ถ้าปฏิบัติตามกฎหมายก็ไม่ต้องจับ ขอให้เคารพกฎหมายบ้าง ตนไม่อยากให้ต้องการให้จับใคร แต่ทุจริตจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก เพราะได้ย้ำไปแล้ว ทั้งตำรวจ ทหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมสภากลาโหมที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษ ขึ้นมาสอบสวนหาขบวนการนำแรงงานเถื่อนเข้ามาไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะดูแลตรงนี้ โดยบูรณาการทุกภาคส่วนมา ซึ่งตนเน้นทำงานด้านการข่าว ยอมรับว่า ข่าวมีอยู่แล้ว และน้องๆ สื่อได้ข่าวมาตรงนั้นตรงนี้
“ผมอยากถามว่า แล้วทำไมท้องที่ไม่รู้ มันน่าจะต้องรู้ เดี๋ยวดูแล้วกันกำลังตรวจสอบจับอยู่ แต่มันไม่ไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งผมได้ให้สาวต่อไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ มากกว่าการจับกุมรายๆไป วันนี้กำลังตรวจสอบอยู่ เข้าใจว่ามีความเชื่อมโยงอยู่ แต่ยังชี้แจงไม่ได้ตอนนี้ หาข้อเท็จจริงก่อน ยอมรับว่ามีการส่งข้อมูลมาถึงนายกฯและทางโซเชียลก็มี แต่ส่วนใหญ่มันกว้าง ว่ามีตรงนั้นตรงนี้ และมีผู้มีอิทธิพล ถ้ามีข้อมูลกรุณาบอกตนมา เพราะผมเปิดดูคนเดียวอยู่แล้ว หรือจะส่งผ่านสำนักนายกฯก็ได้ เป็นจดหมายน้อยมาก็ได้รับหมด ผมอ่านทุกอันเวลาส่งมา แต่ขอให้มีข้อเท็จจริงหรือมีหลักฐานในชั้นต้นก่อน เพื่อที่ดำเนินการต่อได้ ถ้าพูด รวมๆ มาบางทีผมก็ลำบาก เพราะเอาตำรวจไปทำงานหลายแสนคน ทหารก็หลายแสนคน เราต้องให้คนดีก้าวหน้า คนไม่ดีต้องเอาออก มันมีทุกองค์กร นันแหละจะทำอย่างไร ต้องอาศัยคนข้างล่างบูรณาการร่วมกัน แต่ขอให้เข้าใจพลเรือน ทหาร ตำรวจ ให้มากหน่อย ในช่วงปีใหม่งานหนัก อะไรที่จะลดภาระเขาได้บ้าง ก็กรุณาอย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากันในเรื่องของกฎหมาย ในช่วงที่ทุกคนจะมีความสุข และตอนนี้ก็มีโควิด-19 เข้ามาอีก สถานการณ์โลกเป็นแบบนี้ มันเกิดขึ้นทุกประเทศ ฉะนั้นต้องร่วมมือแก้ปัญหาไปด้วยกัน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
เมื่อถูกถามว่า ประเมินหรือไม่หลังปีใหม่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าควบคุมได้ก็โอเค อยู่ที่ว่าควบคุมได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ตนได้รับรายงานทุกวัน หลายอย่างเริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ข้อสำคัญสุด คนของเราต้องไม่มีส่วนรู้เห็นในการนำพาแรงงานออกนอกพื้นที่ ตนได้ขอร้องไปแล้ว แม้แต่การลงโทษดำเนินคดีตนยังไม่ทำเลยในตอนนี้ ฉะน้ั้น อย่าเอาแรงงานไปปล่อยที่อื่น และแรงงานจะต้องถูกควบคุมอยู่ในพื้นที่ตามที่ระบุไว้แล้วอย่างเข้มแข็งเด็ดขาด ปานกลาง เสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน
“เรื่องสินค้าสัตว์น้ำ ทางนายกสมาคมส่งออกแช่แข็งสัตว์น้ำได้ชี้แจงแล้ว เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค บอกแล้วว่าการจะติดเชื้อต่างๆ จากสัตว์น้ำ อาหาร มีโอกาสน้อย หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ เดี๋ยวจะตื่นตระหนกกันไปหมด โรคนี้เป็นโรคระบาดจากคนสู่คน จึงได้รณรงค์สวมใส่หน้ากาก ปีใหม่ถ้าตะโกนใส่กันก็อันตราย ไม่รู้ใครเป็นใคร ประเทศไทยถือมีการระบาดน้อยที่สุด แต่เราเคยเตือนแล้วบางทีไม่แสดงอาการก็ไม่รู้ ถ้าทุกคนไม่เฝ้าระวังก็ลำบาก” นายกฯกล่าว
“ต้องขอความร่วมมือกับบรรดานักการเมืองด้วย บางทีออกมาพูดจาอะไรมันไม่ใช่ ขอร้องอย่าทำการเมืองในเรื่องของโควิดเลยเพราะจะทำให้มีปัญหา เพราะการสร้างการรับรู้มันลำบาก รัฐบาลพูดอะไรไปก็กลายเป็นไม่ใช่ ดังนั้น ต้องขอร้องร่วมมือกันจะไปด้วยกันได้หมดประเทศเรา วันนี้นายกฯประชุมหลายเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ ค่เงินบาท ความมั่นคง ดิจิทัล อยู่ทำเนียบรัฐบาลก็มีงานทำ งานมันเยอะ” นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไรหรือไม่ บนสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจที่ไม่ดีในเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า บอกไปแล้วทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบงานตามภารกิจอยู่แล้ว จะต้องมีการบูรณาการ แนวคิดใหม่ๆออกมาช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ทุกกระทรวงต้องร่วมมือกัน เพื่อเข้าถึงการดูแลประชาชน ทั้งเรื่องแรงงาน สินค้า หน้ากาก การเดินทาง มาตรการเว้นระยะห่าง สิ่งเหล่านี้ถ้าทุกคนไม่ระวังก็จะเกิดปัญหาอีกและกลับไปสู่ที่เดิม เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาตอนต้นๆ แต่เราถือว่าบริหารจัดการได้ดี และวันนี้ไม่อยากจะโทษแรงงานต่างด้าว ทุกคนเข้ามาประเทศไทยหวังหนีร้อนมาพึ่งเย็นต้องการมีรายได้ งานบางอย่างคนไทยไม่ทำ เราเคยขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว วันนี้ต้องทำต่อเพราะมีกิจการต่างๆ เพิ่มขึ้นจำนวนมาก พวกธุรกิจมีเงินทุนน้อยก็จะอาศัยตรงนี้ เพราะฉะนั้นต้องรับผืดชอบร่วมกัน
“วันนี้วันคริสต์มาส ขอทุกคนมีความสุข ขอให้สื่อช่วยกัน ขอทุกคนช่วยกัน ถ้าเราทำทุกอย่างให้ขัดแย้งไปเสียหมด มันจะไปไม่ได้ รัฐบาลก็ทำอะไรให้ไม่ได้ เพราะติดกันหมด ขอช่วยก้นสร้างความเข้าใจในสิ่งดีๆให้เกิดความร่วมมือกระหว่างประชาชน เพราะทุกคนคือคนไทย ต้องรวมใจสร้างชาติ” นายกฯกล่าว