ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล แจ้งความสื่อตีข่าวปมโพสต์หมิ่นเหม่สถาบันฯ! ขณะอัษฎางค์ ชี้ซ้ำรอยธนาธร ฟ้องสนธิญาณ แต่ไม่กล้ามาศาล!

1258

ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล แจ้งความสื่อตีข่าวปมโพสต์หมิ่นเหม่สถาบันฯ! ขณะอัษฎางค์ ชี้ซ้ำรอยธนาธร ฟ้องสนธิญาณ แต่ไม่กล้ามาศาล!

จากกรณีที่เพจชื่อดัง “เสธ.Play” ได้ไปค้นข้อมูลย้อนหลังในทวิตเตอร์ชื่อ Woraphon Anantasak ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ส่วนตัวของ นายวรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัครส.ส.ชุมพร จากพรรคก้าวไกลและนำมาโพสต์ถึงมุมมองและแนวคิดที่ นายวรพล เคยโพสต์ไว้เมื่อ วันที่ 21 มี.ค.63 ซึ่งมีรายละเอียดว่า “หมดยุคของคำว่า “ล้มเจ้า” แล้วครับ เพราะ “เจ้าล้มตัวเอง” มันเลยกลายมาเป็น..ยุค “ประชาชนตาสว่าง” และสุดท้าย ก็จะมีคนรู้สึก เหมือนเรามากขึ้น #กษัตริย์มีไว้ทำไม” ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึงพฤติกรรมดังกล่าว ว่าอาจจะเข้าข่ายผิดมาตรา 112ด้วย

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 มกราคม 2564) ทางด้านนายวรพล ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันและแจ้งความ โดยระบุข้อความว่า มาลงบันทึกประจำวันและแจ้งความ 2 เรื่อง

วันที่ 6 มกราคม 2565 เวลา 21.56 มาลงบันทึกประจำวันและแจ้งความ 2 เรื่อง
1.มีการนำโพสต์ข้อความจากทวิตเตอร์ เมื่อปี 2563 มาตัดต่อกับภาพหาเสียง ปี2565 และมีการโพสต์บิดเบือนจากความหมายในข้อความ ทำให้ข้าพเจ้าเสียชื่อเสียง ถูกหมิ่นประมาท ถูกเกลียดชัง และถูกคุกคาม ทำให้เกิดความเสียหาย และเป็นการชี้นำเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการให้โทษแก่ผู้สมัคร ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และมีการแชร์อย่างกว้างขวาง ซึ่ง ข้าพเจ้า ได้แจ้งความประสงค์กับพนักงานสอบสวน ว่าหากยังมีการกระทำอีก ทั้งผู้โพสต์ ผู้แชร์ ฯ ข้าพเจ้าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
2.มีสื่อช่อง…. และหลายๆ เพจนำสื่อและรูปภาพของข้าพเจ้าและพรรคไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และลงข่าวบิดเบือนข้อมูล มีข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ข้าพเจ้าเสียชื่อเสียง ถูกหมิ่นประมาท ถูกเกลียดชัง และถูกคุกคาม ทำให้เกิดความเสียหาย และเป็นการชี้นำเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการให้โทษแก่ผู้สมัคร ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
ซึ่ง ข้าพเจ้า ได้แจ้งความประสงค์กับพนักงานสอบสวน ว่าข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้สื่อช่อง….. และหลายๆ เพจ (ไม่ขอเอ่ยชื่อเพราะเจ้าตัวเพจรู้ดี) นำภาพและสื่อของข้าพเจ้าไปใช้ หากยังมีการกระทำเกิดขึ้นอีก ข้าพเจ้าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในขณะที่นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า ”แกว่งเท้าหาเสี้ยน”

ฟ้องเลยครับน้อง จะได้รู้ว่าใครผิด ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขตจังหวัดชุมพร พรรคก้าวไกล ซึ่งโพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันฯ จนเป็นข่าวใหญ่ ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปแจ้งความว่า ถูกสื่อและโลกโซเชี่ยลนำเรื่องราวของตนไปบิดเบือนเผยแผ่
ซึ่งทำให้รู้ได้ว่า ผู้สมัครคนนี้เด็กมาก อ่อนมากที่ไปแจ้งความ เพราะถ้ามีการฟ้องร้องขึ้นศาล ก็จะมีการนำสืบคดี
ที่นี่แหละสนุก เพราะจะมีการสาวความว่า มีการกระทำอันเกี่ยวข้องกับ ม.122 ม.116 หรือไม่ มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการพยายามจะล้มล้างการปกครอง หรือไม่
ซึ่ง… เคยมีกรณีตัวอย่าง เมื่อธนาธรเคยฟ้องคุณสนธิญาณบอสใหญ่ท๊อปนิสน์กับ ดร.อานนท์ แต่พอถึงวันที่ศาลนัด ธนาธรหายหัว เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าคิดผิด การขึ้นศาล คือการนำตัวเองไปให้ศาลพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำนั้น เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและความพยายามจะล้มล้างการปกครอง หรือไม่ ขนาดผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคคู่แข่งในเขตชุมพรยังไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องผู้สมัครพรรคก้าวไกลเลย ทั้งที่เขามีช่องทางเล่นงานแล้ว แต่อยู่ดีๆ ตัวเองกลับหาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว ทำให้นึกถึงสุภาษิตไทยที่ว่า”แกว่งเท้าหาเสี้ยน” แท้ๆ ไอ้หนุ่ม
พี่แนะนำให้รีบไปถอนฟ้อง อยู่นิ่งๆ กับเรื่องนี้ แล้วเดินหาเสียงต่อไป จะดีที่สุด ไอ้หนุ่ม แต่ถ้าห้าวเป้ง อยากฟ้องจริงๆ
ฟ้องเลยครับน้อง สนุกดีครับ หลักฐานชัดขนาดนี้ ศาลท่านก็พิจารณาตัดสินความว่าใครผิดได้ง่ายและรวดเร็ว จากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. อาจจะได้กลายเป็น นช.
ทั้งนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีวันที่ 9 พ.ย. 2563 เครือข่ายปกป้องสถาบันได้จัดชุมนุมที่ ม.รามคำแหง และอ้างว่า จำเลยได้ปราศรัย ทำนองว่า โจทก์อยู่เบื้องหลังกลุ่มเยาวชนที่จัดชุมนุมทางการเมืองและอื่นๆ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสีย พร้อมเรียกค่าเสียหาย 27.5 ล้านบาท