วันที่ 25 ธันวาคม 63 นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนซีไรต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมแนบภาพเหล่านักการเมืองที่ประชาชนสุดเอือมระอา
โดยข้อความที่นายวิมลโพสต์ ระบุว่า
“ประเทศไทยไม่ควรมีนักการเมืองอย่างนี้ เสียดายเงินเดือน
ซ้ำทำให้คนหมดความเชื่อถือต่อระบอบประชาธิปไตย
และจะทำให้คนคิดว่าระบอบอะไรก็ได้ที่สร้างประโยชน์ได้จริงแก่ส่วนรวม”
โดยเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการยุติการประชุมกลางคัน ในวันที่ 17 ธันวาคม สั่งงดการประชุมกะทันหัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการงดการประชุมติดต่อกันถึง 3 ครั้ง อาจกระทบต่อกรอบเวลาการพิจารณาของกรรมาธิการที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 มกราคม 2564 และจะต้องนำรายงานของคณะกรรมาธิการและผลการพิจารณาให้รัฐสภาพิจารณาช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และลงมติวาระที่สามก่อนปิดสมัยประชุมฯ
“การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นสำคัญ แต่การแก้รัฐธรรมนูญก็ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนที่จะเป็นเครื่องมือในการพาประเทศออกจากวิกฤตโดยเร็วที่สุด จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 ด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ติดต่อกันหลายเดือน แต่กลับปล่อยปละละเลยการสกัดตรวจตามแนวชายแดน จนเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และกระทบต่อการประชุมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าทำให้ประชาชนแคลงใจว่ารัฐบาลจงใจใช้โควิด-19 เป็นข้ออ้างในการยื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญ” น.ส.จิราพร กล่าว
อีกกรณีคือ กรณีเพจเฟซบุ๊ก “พรรคก้าวไกล” โพสต์ข้อความเนื้อหาการอภิปรายแก้กฎหมายอาญา เปิดทางผู้หญิงเข้าสู่การยุติการตั้งครรภ์ปลอดภัยที่โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุตอนหนึ่งว่า “สิ่งที่พรรคก้าวไกลเห็นแตกต่างจากร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรีคือ เรื่องเงื่อนเวลาปลอดภัยในการยุติการตั้งครรภ์อยู่ที่ภายใน 12 สัปดาห์ จึงจะไม่มีความผิดอาญา ขณะที่พรรคก้าวไกลเสนอว่าเงื่อนเวลาไม่มีความผิดอาญาควรจะอยู่ที่ 24 สัปดาห์ ”
“สาเหตุของการยุติการตั้งครรภ์หลัง 12 สัปดาห์มีหลายสาเหตุ และเป็นสาเหตุที่หลายท่านอาจคาดไม่ถึง เช่น การคุมกำเนิดไม่สำเร็จ ไม่มีเงินทำแท้ง การทำแท้งทานยาเถื่อนและคิดว่าแท้ง แต่ไม่แท้งจนเลย 12 สัปดาห์ หรือแม้กระทั่ง ฝ่ายชายทิ้งไป ชายมีหญิงอื่น ฝ่ายชายแต่งงานแล้ว ฝ่ายชายติดยาเสพติด ฝ่ายชายติดคุก ตกงานไม่มีเงินที่จะเลี้ยงดู การตั้งครรภ์เป็นอุปสรรคในการประกอบวิชาชีพ เป็นต้น ดังนั้นการพูดถึงสิทธิผู้หญิง กับ ตัวอ่อนในครรภ์ คงไม่เพียงพออย่างที่ร่าง ค.ร.ม. ได้นำเสนอมา เพราะหลักคิดของพรรคก้าวไกลสอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่เป็นปัญหา ภายใต้แนวคิดสิทธิของผู้หญิง ตัวอ่อนในครรภ์ และ ความปลอดภัยของผู้หญิง”
ส.ส.อีกคคนที่ลืมไม่ได้ พฤติกรรมของ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ คอนถม ส.ส.พรรคก้าวไกลที่มักจะด่ากราดจวกรัฐบาลด้วยกริยาหยาบคาบอยู่เสมอ
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 500 รายในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ซึ่งกรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเป็นการทำงานแบบใช้ปาก จนทำให้สถานการณ์บานปลายและลุกลาม ทั้งที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกว่า 9 เดือน
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“ธนาคารโลกชี้ชัด
รัฐบาลลุงตู่โกงจนเจ๊ง
คนจ่ออดตาย
มากกว่า50%
การคลังถังแตก
คนไม่มีจะแดก
ลุงออกเถอะครับ
เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
ให้ประชาชน”
ซึ่งต่อมา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งความดำเนินคดี ก ข้อหา พรบ คอม และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้โพสข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า
“วัฒนธรรมการเมืองภายใต้ พล.อ. ประยุทธ์แย่มาก ไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไร โควิดระบาด เป็นความบกพร่องของหน่วยงานรัฐภายใต้การนำของรัฐบาลกลับโทษประชาชน กลายเป็นภาระของประชาชนที่ต้องทุกข์ทนแบบนี้ พูดกันแรงๆนะ ผมว่าไวรัสที่น่ากลัวที่สุดในเวลานี้ คือ #ไวรัสประยุทธ์ นี่แหละ”