จีนตอบโต้สหรัฐ?!? เลิกบ่อนทำลายความสงบสุขเอเซีย หลังอินเดีย-สหรัฐลงนามร่วมมือทางทหารเพิ่ม

2196

กต.จีนแถลงเดือดเตือนสหรัฐฯเลิกปลุกปั่น สร้างความบาดหมางจีนกับประเทศในเอเชีย หลังสหรัฐฯ-อินเดีย ลงนามข้อตกลงส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการทหาร เพื่อแบ่งปันข้อมูลดาวเทียมระบุตำแหน่งเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน และประกาศต้านอิทธิพลจีนร่วมกันอย่างออกนอกหน้า เป็นการยกระดับความตึงเครียดจากการแบ่งฝ่ายของมหาอำนาจโลก  ทำให้เอเซียตกอยู่ในหล่มความขัดแย้งและสุ่มเสี่ยงในสงครามเชิงพื้นที่อย่างน่าวิตก

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้นายปอมเปโอ ยุติการปลุกปั่นกระแสต่อต้านจีนระหว่างการเดินทางเยือนอินเดีย โดยเลิกใช้วลีที่ว่า “ภัยคุกคามจากจีน” และเลิกเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ตลอดจนเลิกบ่อนทำลายเสถียรภาพและความสงบสุขในภูมิภาคด้วย 

อินเดียหันหลังให้จีนแบบกู่ไม่กลับ
การทำข้อตกลงสำคัญด้านการทหารระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย มีขึ้นหลังจากทั้งสองฝ่ายร่วมประชุมระดับสูงประจำปี “2+2” ที่กรุงนิวเดลี 
วันที่ 27 ต.ค.2563  นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ พร้อมด้วยนายสุพราหมณ์มันยาม ชัยชันคาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลจากดาวเทียมระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์ (Basic Exchange and Cooperation Agreement on Geospatial Cooperation-BECA) ซึ่งจะช่วยให้อินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการระบุตำแหน่งเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน

ข้อตกลงนี้ยังมีนายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พร้อมด้วยนายราชนาธ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย ร่วมลงนามด้วย และเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลายฉบับที่มีการลงนามระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย ในช่วงที่นายไมค์ ปอมเปโอ เดินทางเยือนอินเดียเป็นแห่งแรกของภารกิจเยือนเอเชีย ปิดฉากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเขา ก่อนที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน

-นายปอมเปโอ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างอินเดียท่ามกลางการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่มีต่อเสรีภาพและอธิปไตยของประเทศ 
-นายมาร์ค เอสเปอร์กล่าวว่า แม้ว่าวันนี้จะเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความท้าทาย แต่ความเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย สองประเทศประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ของโลกจะยังคงเดิมและจะแข็งแกร่งเติบโตยิ่งขึ้นไป

ที่ผ่านมาทั้งสองชาติได้ตกลงที่จะให้กองทัพของตนจัดเตรียมเสบียงและเชื้อเพลิงร่วมกัน และใช้ฐานทัพของกันและกันมาก่อนแล้ว และภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ สหรัฐก็จะให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนกับอินเดีย เช่น ภาพจากดาวเทียมทางทหาร โดยเชื่อว่า ข้อตกลงฉบับใหม่จะมุ่งต่อต้านจีนที่กำลังขยายอิทธิพลทางทะเลอย่างมีนัยยสำคัญ

ข้อตกลงนี้จะทำให้อินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการระบุตำแหน่งเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่างๆ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้สหรัฐฯ จัดหาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าด้านการระบุตำแหน่งและการบินเพื่อติดตั้งในเครื่องบินทหารที่สหรัฐฯ ขายให้แก่อินเดียด้วย

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 บริษัทอเมริกันได้ขายอาวุธต่าง ๆ ให้แก่อินเดีย เป็นมูลค่ากว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ และทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ในอุปกรณ์ทางการทหารที่มีความทันสมัยสูงอีกด้วย

พันธมิตรQUED พัฒนาการทหารต่อต้านจีน
ทั้งสหรัฐฯและอินเดียต่างมีความสัมพันธ์กับจีนซึ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา  วอชิงตันมีศึกการค้าที่ดุเดือดกับปักกิ่ง และคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ส่งเสียงเตือนภัยมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการที่จีนกำลังเติบโตขยายตัวเป็นมหาอำนาจในทางเศรษฐกิจและทางการทหาร

ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐและอินเดียเพิ่งร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับญี่ปุ่นและออสเตรเลียที่กรุงโตเกียว ซึ่งทั้งสี่ชาติได้ประกาศจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างตามหลักนิติธรรม และจะให้มีการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันของทั้ง 4 ชาติในเดือนพฤศจิกายนในน่านน้ำใกล้อินเดีย

สำหรับอินเดียก็กำลังมองหาความสนับสนุนทางทหารระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ที่ได้เกิดการปะทะทางชายแดนกับจีนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่มีทหารอินเดียอย่างน้อย 20 คนเสียชีวิต ส่วนจีนยอมรับว่าฝ่ายตนก็มีผู้บาดเจ็บล้มตายแต่ไม่ให้รายละเอียด  ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองฝ่ายได้ส่งกำลังทหารหลายหมื่นคนไปยังพรมแดนที่พิพาทช่วงชิงกันของพวกเขาในภูมิภาคลาดัค และกำลังเสริมที่มั่นเผชิญหน้ากันในพื้นที่สูงชันและอากาศต่ำกว่าจุดเยือกแข็งขณะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว

อินเดียนั้นกำลังหาซื้อพวกอุปกรณ์ใช้ในอากาศหนาวยะเยือกจากสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่หลายรายเผย นอกจากนั้นยังได้ตกลงขยายการซ้อมรบทางนาวีในมหาสมุทรอินเดียที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้าใช้ชื่อว่า
“มาลาบาร์”พร้อมพันธามิตรหน้าใหม่ ที่อาจมีเวียดนามเข้าร่วม