จากประเด็นเรื่อง เกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือยอร์ชชื่อ Silvretta ขนาดระวาง 64 ฟุต ลักษณะเรือ 1 ชั้น ครึ่ง สีขาว ซึ่งจอดลอยลำอยู่ที่ ท่าจอดเรือชื่อ.อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ต. อ่าวปอ อ. ถลาง จังหวัดภูเก็ต ต่อมามีรายงานว่าเจ้าของเรือสำราญดังกล่าวเป็นของนักการเมืองและเศรษฐีชื่อดัง อักษรย่อ “ธ”
ต่อมา นายสมชาย แสวงการ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า #ฝากสื่อมวลชนและปปชตรวจสอบด่วน ช่วยกันครับตรวจสอบข้อมูลนี้ว่ามีข้อเท็จจริงแค่ไหนประการใด ที่สำคัญควรเปรียบเทียบกับบัญชีที่ยื่นต่อปปชก่อนและหลังพ้นตำแหน่งด้วย ว่า มีเรือยอร์ชลำนี้อยู่ในบัญชีที่แจ้งหรือไม่ ถ้าไม่มี ท่าทางจะยุ่ง…และสงสัยว่าจะผิดกฎหมายป.ป.ช. ในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จแล้วกระมังครับ?
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือยอร์ชที่ชื่อ Silvretta เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ชึ่งจอดลอยลำอยู่ที่ท่าจอดเรืออ่าวปอแกรนด์ มารีน่า ต.อ่าวปอ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งสื่อมวลชนได้รายงานว่าเจ้าของเรือสำราญดังกล่าวมีรายชื่อเป็นเจ้าของร่วมอยู่ 4 คน 2 คนเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย เพราะเป็นของนักการเมืองและเศรษฐีชื่อดัง อักษรย่อ “ธ” อดีตหัวหน้าพรรคการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปแล้ว
นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่าเรือนี้จดทะเบียนที่หมู่เกาะคุก ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเขตปลอดภาษี และเป็นเกาะที่ดังเรื่องการฟอกเงินด้วยนั้น
กรณีดังกล่าวเป็นที่สงสัยกันอย่างมากว่า นักการเมืองดังคนดังกล่าวไปจดทะเบียนเรือหรูดังกล่าวในหมู่เกาะดังกล่าวเพื่อหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ และทำไมจึงย้อนแย้งต่อสิ่งที่นักการเมืองคนดังกล่าวพยายามพูดกล่อมสาวกและสังคมไทยมาโดยตลอดว่าจะนักการเมืองจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่กลับตนเองกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามได้หรืออย่างไร
นอกจากนั้น เมื่อตรวจสอบไปยังบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่นักการเมืองรายดังกล่าวได้ยื่นไว้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. รวมคู่สมรสนั้นพบว่า นักการเมืองคนดังกล่าวได้ระบุชัดเจนว่า มีเรือยอร์ชอยู่ด้วย แต่มีข้อผิดสังเกตที่ช่องทะเบียน และจังหวัด ไม่มีการระบุอะไรไว้ทั้งสิ้น จะมีก็แต่เพียงวันที่ซื้อมา และแจ้งราคาไว้เพียง 10 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ไม่ปรากฏแต่อย่างใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมหลักฐานไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนนักการเมืองคนดังกล่าวเพิ่มเติมว่ามีเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตนเองซึ่งควรต้องแจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบและมีพฤติการณ์ อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ตาม พรป.ว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 ม.28(3) ประกอบ ม.102 ม.111 วรรคสอง ม.114 หรือไม่ หากวินิจฉัยว่าเข้าข่ายให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยเอาผิดตาม ม.167 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับต่อไป
โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด