จากรณีที่ กลุ่มแกนนำประกาศว่าในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 นี้ จะจัดการชุมนุมใหญ่ โดยทางแกนนำอย่าง นายอานนท์ นำภา ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ จะเป็นการชุมนุมที่เป็นปกติ ซึ่งคนที่ออกมาร่วมชุมนุม เชื่อว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมที่จะมาร่วมชุมนุมจริง ๆ เพราะตรงกับวันทำงาน
ดังนั้นตนคิดว่าวันที่ 14 ตุลาคมนี้ จะเป็นตัวชี้วัดของสังคมได้เป็นอย่างดี และการชุมนุมในวันดังกล่าวจะเป็นวันที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน กระบวนการในการจัดการเวที การจัดคนปราศรัย และการจัดการพักแรม คิดว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นจากความตั้งใจ ซึ่งอยากให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ เพราะจะมีการรวมกันทุกกลุ่มครั้งสำคัญ นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมรับการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ตุลาคม ว่า ไม่ต้องห่วง เราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยเมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ เพราะผู้ชุมนุมระบุว่าจะระดมคนมาเป็นล้านคน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “มาเป็นล้านเลยหรอ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีการจัดชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ที่บริเวณอนุสวารีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง
ซึ่งทางแกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก ยังไม่ได้แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ แต่อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจนครบาลได้เตรียมกำลังเฉพาะตำรวจนครบาลประมาณ 20 กองร้อย ประมาณ 3,000 นาย และมีกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1,2,3,4 และ 7 ไว้รองรับตามจำนวนผู้ชุมนุม
และมีการตั้งจุดตรวจและจุดคัดกรอง ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย รวมไปถึงการตรวจวัดอุณหภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะยึดหลักปฏิบัติตามแผนการชุมนุม 63 ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อ 7 วัน 7 คืน ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศไว้หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ เพราะต้องรอการแจ้งการชุมนุมก่อน และแผนการปฏิบัติก็จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
