ญี่ปุ่นวุ่น!!!ชินโซ อาเบะลาออกจากตำแหน่งนายกรมต.ญี่ปุ่นแล้ว ป่วยหนักลำไส้อักเสบ คาดนโยบายLDP ไม่เปลี่ยน รมต.คลังรักษาการ

1862

นาย ชินโซ อาเบะ วัย 65 ปี นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและหัวหน้าพรรค LDP มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังกำเริบ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาหลายอย่างของรัฐบาล เขากล่าวขอโทษประชาชนที่ไม่อาจยืนหยัดอยู่จนครบกำหนดในปีหน้าได้  นักวิเคราะห์คาด ไม่กระทบนโยบายเศรษฐกิจเดิม และรมต.กระทรวงการคลัง ทาโร อาโสะ จะรักษาการแทน จนกว่าพรรคจะเลือกหัวหน้าคนใหม่

ในกรณีนี้โฆษกรัฐบาล ได้ออกมากล่าวยืนยันว่า ชินโซ อาเบะ ยังมีสุขภาพดี และตัวโฆษกรัฐบาลเองก็ได้พบกับนายกรัฐมนตรีถึงสัปดาห์และ 2 ครั้ง

ปัญหาเศรษฐกิจ-โควิด ระบาดยังคั่งค้าง

สำหรับนโยบายที่สำคัญๆ ของนายกรัฐมนตรีคือ ความพยายามที่จะฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาเงินฝืดมานาน ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศชะงักเป็นเวลานับทศวรรษ โดยใช้นโยบายที่เรียกว่าธนู 3 ดอก คือ 1.ทำให้อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นกลับมาที่ 2% ผ่านการทำนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย 2.นโยบายทางการคลังคือ เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศ 3.นโยบายการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีที่อยู่นานแต่ความสำเร็จยังไม่ปัง

ระยะเวลาที่ผ่านมาความนิยมของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ลดลงจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจญี่ปุ่น รวมไปถึงปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รัฐบาลเองประสบปัญหาในการจัดการในช่วงที่ผ่านมา

อาเบะ ชินโซ  รั้งเก้าอี้นายกฯ มาแล้ว 2,888 วัน ทำลายสถิติเดิมของอดีตนายกรัฐมนตรี ทาโร คัตสึระ ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นถึง 3 สมัยในช่วงปี ค.ศ. 1901-1913  อาเบะ ในวัย 65 ปี ยังเป็นผู้นำที่รั้งตำแหน่งยาวนานเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 รองจากนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ซึ่งกุมบังเหียนรัฐบาลเยอรมนีมาตั้งแต่ปี 2005 ฐานอำนาจทางการเมืองของ อาเบะ ยังคงเข้มแข็งพอดู และมีแนวโน้มที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ยาวไปถึงเดือน กันยายน ปี 2021 เป็นอย่างน้อย โดยยังไม่เห็นวี่แววว่านักการเมืองคนใดจะก้าวขึ้นมารับช่วงต่อ

อย่างไรก็ตาม ผู้นำญี่ปุ่นยังคงมีภารกิจที่สะสางไม่เสร็จอยู่อีกหลายเรื่อง และเคยประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าหลังปรับคณะรัฐมนตรีแล้วจะเริ่มแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังค้างคาเพื่อนำประเทศเข้าสู่ยุคใหม่ เขายังคงย้ำความตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเปลี่ยนสถานะกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ทว่าพรรคฝ่ายค้านยังคงปฏิเสธที่ที่ร่วมผลักดันด้วย ขณะที่ตัว อาเบะ เองก็เผชิญปัญหาจากการลาออกของรัฐมนตรี 2 คน และข้อครหาเอื้อประโยชน์พวกพ้อง

ข่าวลือปัญหาสุขภาพของอาเบะมีเป็นระยะ

นิตยสารรายสัปดาห์ “แฟลช” รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.อาเบะอาเจียนเป็นเลือดที่สำนักงาน สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบรายงานข่าวชิ้นนี้ที่ถูกอ้างถึงเป็นวงกว้างได้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง  สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งในโรงพยาบาลว่า อาเบะตรวจร่างกายปีละ 2 ครั้งเป็นประจำ ล่าสุดเมืื่อวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งการไปโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการติดตามผลการตรวจเดือน มิ.ย.

ถ้าอาเบะทำงานไม่ได้  ทาโร อาโซ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง วัย 79 ปี จะเป็นทำหน้าที่แทนในตำแหน่งนายกฯ รักษาการ

ผลสะเทือนต่อสังคมประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ

-หลังมีข่าวการลาออกของเขาจากปัญหาสุขภาพ ส่งผลทำให้ดัชนี Nikkei ลดลง -1.4% ทันที

-ถ้าอาเบะลาออก เขาต้องอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะได้นายกฯ คนใหม่ โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ต้องเลือกตั้งประธานพรรคคนใหม่  และต้องผ่านความเห็นชอบของสภาจึงจะเป็นนายกฯ ได้

ทั้งนี้ อาเบะเป็นประธานพรรคแอลดีพีแล้วจึงเป็นนายกฯ วาระประธานพรรคของเขาจะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2564 หรือลาออกไปก่อน

นักวิเคราะห์คาดว่า-คนที่ส่อแววเป็นผู้นำคนต่อไป เช่น อาโซ, อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ชิเกรุ อิชิบะ, อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟุมิโอะ คิชิดะ, ซูงะ และรัฐมนตรีกลาโหม ทาโร โคโน ทั้งหมดเป็น ส.ส.มากประสบการณ์จากพรรคแอลดีพี จึงไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนนโยบายไปมากนัก แม้รายละเอียดจะแตกต่างออกไปบ้าง และเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีโครงสร้างแข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน แม้จะหดตัวต่อเนื่องมาก็ตาม