นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย แฉพฤติกรรมต่างด้าว ทำสมุทรสาครป่วน ยอดติดเชื้อจังหวัดเดียวพุ่ง 821 ราย

3961

จากกรณีสถานการณ์โควิด-19 ลุกลามในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มีผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 821 ราย ซึ่งมีต้นตอมาจากตลาดกุ้ง สมุทรสาคร และส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวนั้น ขณะที่ศบค.อัพเดทสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2563

โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่ม 382 ราย
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,289 ราย
หายป่วยเพิ่ม 12 ราย สะสม 4,053 ราย
ยังรักษาใน รพ. 1,176 ราย
เสียชีวิตสะสม 60 ราย

ล่าสุดทางด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ในพื้นที่สมุทรสาคร ระบุว่า “ท่านบอกว่า ตลาดกลางกุ้งเป็นปลายทาง ผลอาการที่แสดงออกมา

เราต้องรีบไป การ์ดที่ต้นทางและแยกน้ำเสียออกจากน้ำดีให้เร็วที่สุด

ต้นทางคือ 1. ที่พักชาวพม่า มีเป็นหมู่บ้านใหญ่ขนาด 10,000 คน อยู่ 2-3 ที่ เจ้าหน้าที่ทางการทราบดี นอกจากนี้ ยังมีบ้านเช้า แฟลตโรงงาน พวกเราต้องช่วยกันให้ข้อมูล

2. แรงงานเถื่อนเข้ามามาก (เข้ามาง่าย เดินข้ามคลองมา ไม่ต้องว่ายน้ำเข้ามา) ทางราชบุรี สวนผึ้ง ฝั่งไทยมีงานทำ/เงิน/สาธารณสุข ดีกว่าบ้านเค้า เดินทางเข้ามาทุกวัน เป็นธรรมชาติที่เข้าใจง่าย

3. วัฒนธรรมเค้าอยู่ด้วยกันเป็นชุมชน มีบรรยากาศแบบบ้านเค้าเลย กิน ร่วมกัน ห้องพักนึง อาจอยู่ถึง 8 คน กะละ 4 คน แบ่งเตียงกันนอน มีเวรทำอาหาร เป็นหม้อ ๆ กินเป็นระยะ 2-3 วัน กินร่วมกัน/ตักไปกินกลางวัน ประหยัดมาก ส่งเงินกลับช่วยครอบครัวที่บ้านเค้า

มาตรการด่วน ต้องเร่งแยกน้ำเสียออกมา เริ่มตั้งแต่ มหาชัยแล้วครอบคลุมทั้งจังหวัดสมุทรสาคร

1. ไม่ต้องห่วงเรื่องต่างชาติจะตำหนิไทยเรื่องสิทธิมนุษยชน ช่วงนี้

2. บุกไปที่พักหลัก ๆ คัดกรองเลย

3. หาสนามฟุตบอล ทำ แคมป์ชั่วคราว for this operation

4. ทางการไทยติดต่อทางการพม่า ส่งกลับพวกติดเชื้อ เพื่อส่งสัญญาณพวกแรงงานเถื่อนอย่าเข้ามาอีก

5. โรงงานอุตสาหกรรมอาหารในพื้นที่ เตรียมตัวเรื่องความสะอาดในพื้นที่โรงงานและแรงงานถูกต้องตลอด แรงงาน

ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อพวกเค้ากลับไป ชุมชนเค้าตามที่บอกข้างต้น ยากนักที่การควบคุมจะตามไปถึง

มหาชัยห่างจากบางมด 20-30 กม มีความเป็นไปได้สูงว่า เข้ามาพื้นที่ บางมดแล้ว สิ่งที่ชะลอคือค่าครองชีพแพงกว่า ชุมชนแรงงานพม่าเหล่านี้ ยังไม่มีกำลังทางการเงินมาพำนักแถวบางมด

หากช้า ท่าทาง outbreak ครั้งนี้จะรุนแรงมากครับ”

ส่วนทางด้านมาตรการรับมือขั้นต่อไปที่ต้องเร่งจัดการจำกัดวงการแพร่เชื้อในครั้งนี้ ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เผยถึงมาตรการควบคุมโควิดว่า เราไม่เคยหยุดติดตามสถานการณ์ และมีมาตรการครบถ้วน แต่ต้องประสานเอกชนในการรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เหตุที่เกิดขึ้นแสดงความมีความรั่วไหล จึงต้องถามว่ารั่วจากใคร รั่วจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสธ. เราคงโทษใครไม่ได้ ทุกคนมีส่วนร่วม รัฐบาลก็มีมาตรการ จึงต้องช่วยกัน

“ หากปล่อยไปเช่นนี้ในอนาคตอาจนำมาสู่การล็อกดาวน์ ซึ่งจะมีปัญหา แต่เรายังไม่ไปถึงจุดนั้น เพราะฟังจากกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งการรักษา ร.พ.สนามและยา หากใครสงสัยและมีอาการต้องมาพบแพทย์ ”


ส่วนในพื้นที่มีปัญหาได้ล็อกดาวน์ไปแล้ว พร้อมลุยตรวจสอบทั้งหมดไปหลายพันคนแล้ว จากนี้ต้องรอเวลาประเมินและตรวจสอบในอีก 7 วันข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อจะได้ประเมินว่าปีใหม่เราควรจะทำอะไรหรือไม่ ขออย่าเพิ่งตื่นตระหนกและหวังว่าอีก 7 วันสถานการณ์จะดีขึ้น

“ตอนนี้สั่งตรวจทุกตลาดปลาและตลาดที่มีแรงงานต่างด้าว หากพบผิดกฎหมายจะสั่งปิดโรงงานทันที ขณะนี้ไม่อยากให้ไปสู่การล็อกดาวน์ เรายังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะรอบนี้เรารู้ที่มา ขอให้ทุกคนใส่หน้ากาก กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ มีระยะห่าง”

“ปีใหม่ยังรอดูในเรื่องการจัดงานฉลองและเคานต์ดาวน์ ให้ไปประเมินผล 7 วันว่าจะทำอย่างไรต่อ รวมถึงงานวันเด็กแห่งชาติด้วย”