กลายเป็นเรื่องราวสุดเศร้า ที่สะเทือนใจอย่างมาก ที่ทำให้ปัญหาการเหยียดสีผิวในสหรัฐฯ ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อแพทย์หญิงผิวสีชาวอเมริกัน “ซูซาน มัวร์ ” วัย 52 ปี ได้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา
หลังจาก 15 วันก่อน แพทย์หญิงมัวร์ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาลอินเดียนา ยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิทอล ในรัฐอินเดียนา กล่าวถึงแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าเลือกปฏิบัติกับคนผิวสี โดยไม่ได้ให้การรักษาดูแลเธอ ซึ่งมีอาการป่วยหนักจากโรคโควิด-19 จนเธอต้องอ้อนวอนร้องขอให้แพทย์คนนี้รักษาพยาบาลเธอบ้าง
โดยแพทย์หญิงคนนี้ ได้โพสต์คลิปวิดีโอฃเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2563 เล่าถึงความเจ็บปวดที่เธอได้เผชิญอยู่ถึงขั้นต้องร้องไห้ออกมา อีกทั้งยังมีอาการหายใจลำบาก แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจดูแลจากแพทย์ด้วยกัน ซึ่งแพทย์คนนั้นเป็นชาวอเมริกันผิวขาว
เจ้าตัวบอกว่า “เขาไม่ได้ตรวจอะไรเลย แม้แต่การใช้หูฟังฟังปอดของฉัน เขาไม่ได้แตะต้องตัวฉันเลยด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ตรวจคนไข้เลย” แพทย์หญิงมัวร์ เล่าด้วยความคับแค้นใจ
แพทย์หญิงมัวร์ ซึ่งตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อ 29 พ.ย.63 และถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการมีไข้สูง ไอเป็นเลือด และหายใจลำบาก ยังบอกว่า เธอได้วิงวอนขอให้แพทย์สั่งยาต้านไวรัส เรมเดซิเวียร์ เพื่อบรรเทาอาการป่วย และขอให้มีการสแกนตรวจบริเวณทรวงอกของเธอบ้าง แต่แพทย์คนดังกล่าว กลับบอกว่าอาการของเธอยังไม่ต้องใช้ยา และบอกให้เธอกลับบ้านได้ “นี่คือวิธีการที่คนผิวดำที่ถูกฆ่า เมื่อคุณส่งพวกเขากลับไปอยู่บ้าน ขณะที่พวกเขาไม่รู้วิธีการที่จะดูแลรักษาตัวเอง”
” เขาทำกับฉันเหมือนฉันเป็นคนติดยา และเขาก็รู้ว่าฉันเป็นหมอ ฉันไม่ได้ใช้ยาเสพติด ฉันกำลังเจ็บปวด ” แพทย์หญิงมัวร์ ระบายความรู้สึกด้วยความคับแค้นใจผ่านทางวิดีโอ ก่อนที่ต่อมา แพทย์หญิงมัวร์ได้จากไปด้วยโรคโควิด-19 จนสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งกับคนทั่วสหรัฐฯ และประชากรทั่วโลกที่ทราบข่าวนี้
นอกจากนี้แพทย์ผู้เคราะห์ร้าย ยังระบุด้วยว่า เธอได้ร้องขอให้ส่งตัวเธอไปรักษาโรงพยาบาลอื่น กระทั่งได้ออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องถูกส่งตัวกลับมาโรงพยาบาลเดิมในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังจากความดันโลหิตตก และมีไข้สูง
ขณะที่ทางด้านโรงพยาบาลอินเดียนา ยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิทอล ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของแพทย์หญิงมัวร์ และระบุว่า ทางโรงพยาบาลได้คำนึงถึงข้อกล่าวหาในเรื่องการเลือกปฏิบัติอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลอินเดียนาฯ ไม่ได้แสดงความเห็นต่อผู้ป่วยคนใดเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเท่าเทียม และประเทศแห่งเสรีด้านประชาธิปไตย แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านการเหยียดสีผิว เชื้อชาติกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจอย่างมาก
Facebook : Susan Moore