จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เปิดเผยว่าจะยื่นคำร้องต่อ กกต. ประเด็น นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่อมาพรรคเพื่อไทย ก็ได้รีบออกมาแถแก้ตัวทันทีว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เป็นเพียงการเชียร์ตามสิทธิส่วนบุคคลเท่านั้น
ซึ่งในขณะเดียวกัน ทักษิณเอง ก็ยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว เดินหน้าอ้อนวอนชาวเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยได้ทำการโพสตค์คลิปวีดิโอขอร้องให้เลือกนายพิชัย หลังจากที่ได้ร่อนจดหมายน้อยไปแล้วครั้งหนึ่ง
“ทักษิณ” ดิ้นหนัก มาอีกรอบ วอนคนเชียงใหม่ เลือกพิชัย พล่านไม่เคยลืมบ้านเกิด!! (คลิป)
ล่าสุด วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องพร้อมพยานหลักฐานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กรณีที่ปรากฎเป็นการทั่วไปว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายถึงคนเชียงใหม่ผ่านโซเชียลมีเดียให้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ. ท่านหนึ่งซึ่งสังกัดพรรคเพื่อไทย จนเกิดข้อขัดแย้งขึ้นกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ต่อมามีสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนลาออกจากพรรคไปหลายคน และหลังจากนั้น ดร.ทักษิณก็ทวิตเตอร์รัวๆออกมาตัดพ้อมากมายเกี่ยวกับการวางรากฐานให้พรรคเพื่อไทยนั้น
กรณีดังกล่าว อาจเป็นการเข้าข่ายฝ่าฝืน พรป.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 29 ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
นอกจากนั้นใน ม.28 ยังบัญญัติอีกว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทํากาอันเป็นการครวบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
การเขียนจดหมายถึงคนเชียงใหม่ให้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ และการทวิตเตอร์ว่าตนเองเป็นผู้ปูรากฐานให้กับพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทย และการออกมาให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารพรรคเพื่อไทยหลายกรรมหลายวาระ ล้วนเป็นหลักฐานยืนยันถึงการมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นของพรรคเพื่อไทยและ ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ซึ่งอาจมีผลต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมืองดังกล่าว และอาจเป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและลงโทษได้ตาม ม.92(3) และ ม.108 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อวินิจฉัยการกระทำของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยว่าเข้าข่ายการฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ หากวินิจฉัยว่าเป็นการฝ่าฝืนก็เสนอให้ศาลรัฐธณรมนูญวินิจฉัยสั่งลงโทษหรือยุบพรรคเพื่อไทยตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและภาพ ศรีสุวรรณ จรรยา