หน.การ์ดแดงให้เพนกวินยอมรับข้อเสนอก็จะได้ออกมา ชี้แม่โกนหัวเปลี่ยนคำสั่งศาลไม่ได้

2050

จากที่วันนี้ 1 พฤษภาคม 2564  นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง และแนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการที่แม่ของเพนกวินโกนหัว โดยมีทำนองว่า อาจไม่ช่วยให้ได้รับการประกันตัวนั้น

ทั้งนี้โดยเนื้อหาที่นายสมบัติ โพสต์ระบุข้อความไว้ทั้งหมดว่า โพสต์นี้อาจกระทบจิตใจความรู้สึกของนักต่อสู้หลายๆคน ผมจึงขออภัยมาณ.ตรงนี้ล่วงหน้าเลยครับ

เรื่องเพนกวิ้นและการเรียกร้องของแม่กวิ้นในตอนนี้ ถึงคุณแม่จะยอมโกนหัวประท้วงเพื่อให้ปลดปล่อยลูกชายสุดที่รัก แต่ในมุมผม ผมคิดว่าคงมิสามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลได้ แต่สิ่งที่คุณแม่ และทุกคนต้องช่วยกัน คือต้องให้กวิ้นทำตามข้อเสนอที่ทางภาครัฐเสนอมา และออกมาใช้ชีวิตแบบปกติตามแบบที่จะเป็น เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว

สิ่งที่น้องและแม่ทำสังคมทั่วไปรับรู้แล้วถึงแนวทางการต่อสู้ที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคง แต่มันคงไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ในช่วงเวลานี้ อาจต้องใช้เวลา แต่เราก็ต้องรอ

สุดท้ายนี้ คุณแม่และกวิ้น คือแม่ลูกนักต่อสู้ที่ทุกคนต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน ที่โพสต์นี้ไม่ได้ต้องการลดค่า หรือลดทอนการต่อสู้ของใคร แต่มันคือความห่วงใยของผู้ชายคนนึง ที่ยังอยากให้คุณแม่และกวิ้นได้ต่อสู้อีกในระยะยาว ที่ไม่ใช่การทำร้ายตัวเองแบบนี้ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริงครับ

สำหรับเหตุการณ์การโกนหัวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทวิตเตอร์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทวีตภาพ นางสาวสุรีย์รัตน์ ชีวารักษ์ หรือ “แม่ของเพนกวิน” ด้วยศีรษะที่ไร้ผม หลังโกนผมเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ผู้เป็นลูกชาย

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า แม่ของเพนกวิน ได้กล่าวคำพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “ขอให้ทุกคนจงจดจำแล้วก็ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เราต้องขจัดความอยุติธรรมออกไปจากสังคมของเรา อย่าให้ต้องมีใครสูญเสียหรือเจ็บปวดเหมือนครอบครัวเราอีก”

โดยในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. “แม่ของเพนกวิน” ได้ยื่นขอศาลประกันตัวลูกชายอีกครั้ง เพื่อออกมารักษาตัวหลังอาการทรุดหนัก จากการอดอาหารมานานกว่า 46 วัน โดยครั้งนี้นับเป็นการประกันตัวครั้งที่ 10 แล้ว

อย่างไรก็ตามจากที่ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 “แม่ของเพนกวิน” ก็ได้เข้ายื่นประกันตัวลูกชายเช่นกัน แต่ศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัว “เพนกวิน” พร้อมแนวร่วมอีก 6 คน โดยสั่งในลักษณะเดียวกันว่า ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาต