จากการประชุมวุฒิสภา โดยช่วงหารือ ปรากฏว่านายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้หารือถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการกล่าวสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 ว่าด้วยที่มาของส.ว. เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชน
ทั้งนี้รวมทั้งมาตรา 272 ให้ตัดสิทธิ์อำนาจของส.ว.ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายเนาวรัตน์ กล่าวถึงในสถานการณการเมืองปัจจุบัน ที่ตนเองมองว่าเป็นวิกฤตศรัทธาทางการเมือง และมีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน วัยหนุ่มสาวที่แหลมคม
“ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสังคมรับฟังความเห็นและข้อเรียกร้องทุกฝ่าย ขณะเดียวกันรัฐต้องปกป้องไม่ให้เกิดความรุนแรงในการชุมนุมทุกฝ่าย ส่วนสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรนำมาเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมือง และเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม” นายเนาวรัตน์ กล่าว
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้หารือต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยว่า ควรเสนอแก้ไขแบบตรงประเด็น แทนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และรื้อเนื้อหาทั้งฉบับ โดยไม่เห็นทิศทางในอนาคต ซึ่งตนกังวลว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งฉบับ ทั้งหมดนั้นเป็นอันตรายต่อการปกครอง
“ข้อเสนอที่ภาคประชาชนต้องการมี 2-3 ประเด็นเท่านั้น แต่การรื้อทั้งหมด เพื่อตอบกระแสม็อบ เพื่อให้ม็อบสงบนั้น ผมมองว่าจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคุมไม่ได้ หากแก้ไขมีผลกระทบต่อการล้มสถาบัน เช่น องคมนตรี อำนาจกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาลรัฐธรรมนูญ ลดหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
ดังนั้นผมขอให้รัฐบาลพิจารณาให้ดี เพื่อไม่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญนำไปสู่วิกฤตขัดแย้ง ที่เป็นต้นตอของการรัฐประหาร ที่มักเกิดจากวิกฤตรัฐธรรมนูญ” นายสมชาย กล่าว
