หลังจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ศบค.รายงานสถานการณ์ป่วยโควิดเพิ่ม 18 ราย มาจาก11 ประเทศ นับรวมหญิงไทยอายุ 25 ปี ลักลอบเข้ามาจากพม่าด้วย ยอดสะสมรวม 4,026 ราย ทั้งนี้ในรายงานได้ระบุว่า พบผู้ลักลอบเข้าเมือง 4 รายหนีโควิดพม่าลอบข้ามแดนมา
ต่อมาได้มีการเปิดไทม์ไลน์หญิงอายุ 21 ปี ติดโควิด-19 เดินทางจากพม่าเข้ากรุงเทพฯ โดยระบุช่วงเวลา และสถานที่อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ทางด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่า มีความคืบหน้าของทีมสอบสวนโรคในพื้นที่เชียงใหม่ และเชียงราย พะเยา พิจิตร ราชบุรี และ กทม. โดยก่อนหน้านี้มีการแจ้งไปแล้ว 4 ราย มี 1 รายอยู่ที่เชียงใหม่ 3 ราย อยู่ที่เชียงราย ซึ่งตอนนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์
จากการสอบสวนผู้สัมผัส และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้พบอีก 6 ราย ซึ่ง 2 ราย อยู่ที่เชียงใหม่ อีก 4 ราย อยู่ที่พะเยา พิจิตร ราชบุรี และ กทม. อย่างละ 1 ราย โดยสาวพิจิตรได้นั่งเครื่องลงกทม. ก่อนจะเดินทางกลับบ้านไปยังจังหวัดพิษณุโลก โดยสาวพิจิตรรายนี้ ได้ขึ้นเครื่องจากดอนเมืองต่อมาลงที่สนามบินพิษณุโลก และมีเพื่อนมารับโดยรถยนต์ส่วนตัวกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดพิจิตรเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2563 และได้รับผลตรวจยืนยันติดโควิด ทำให้ชาวพิษณุโลก หวาดหวั่นว่าผู้ป่วยรายนี้อาจเดินทางไปสถานที่อื่นด้วย นอกเหนือสนามบินจังหวัดพิษณุโลก
โดยทางจังหวัดพิษณุโลก โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าไปทำการสอบสวนโรคที่สนามบินจังหวัดพิษณุโลก และเส้นทางการเดินทางของผู้ป่วยชาวจังหวัดพิจิตรแล้ว
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Infectious ง่ายนิดเดียว คุณหมอในรพ.แห่งหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ก่ายหน้าผาก กุมขมับ
อีก 5 นาที ลงเวร 20.00 น.วันนี้กินไม่ลง คงไม่ได้กิน เครียดเรื่องโควิด 6 จังหวัด 10 เคส..จังหวัดแอดเกี่ยวข้องด้วย นั่งเครื่องบินมาลง …
ไม่อยากเข้าประชุมทุกวันอีกแล้ว
ไม่อยากมีเคสโควิดใน รพ.อีกแล้ว
ไม่อยากเห็นเจ้าหน้าที่ทำงานหนักอีกแล้ว อยู่บนความเสี่ยง
ไม่อยากต้องมาใส่ชุดหมี
ไม่อยากต้องมาป้ายคอ ค่ำ ๆ ดึก ๆ
ไม่อยากต้องมาหาเครื่องมือ หน้ากาก เสื้อคลุม ถุงมือ face shield อีกแล้ว
ไม่อยาก lock down อีกแล้ว
ให้กำลังใจประชาชน เจ้าหน้าที่
ไทยแลนด์ต้องรอด
ถือว่าหมอขอร้อง
สวมหน้ากากอนามัยกันเถอะนะ ๆ
กราบก็ได้ ”
ขณะที่โรงเรียนในจังหวัดพิษณุโลก นำโดยจ่าสิบเอก ประมวล วันมี ผู้อำนวยการโรงเรียนนครไทย ได้ลงนามในประกาศโรงเรียนนครไทย เรื่องปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ระบุว่า ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของนักเรียนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ 17 มี.ค.2563 หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04006/ว 1150 ลงวันที่ 17 มี.ค.2563 เรื่องการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
ประกอบกับ ตามที่จังหวัดพิจิตรได้ประกาศผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จำนวน 3 ราย ในวันที่ 2 ธ.ค.2563 ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางมาจังหวัดพิจิตรระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.2563 และได้เดินทางท่องเที่ยวในสถานบันเทิง ร้านอาหาร และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ในจ.พิจิตร โดยไม่ได้กักตัว
14 วัน ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นั้น
เนื่องจากโรงเรียนนครไทย สำรวจพบบ ครูของโรงเรียนนครไทยรายหนึ่งได้เดินทาง กลับมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2563 โดยเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยรายดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนนครไทย จึงมีมาตรการป้องกันการติดโควิด-19 ดังนี้
1.กำหนดปิดสถานศึกษาชั่วคราว ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2563
2. ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีหน้าที่ราชการหรือปฏิบัติหน้าที่เวรยาม มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และ
3. ให้ครูและบุคลกากรทางการศึกษา และนักเรียนสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง (SOCAL DISTANONG) และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประกาศ ณ วันที่ 2 ธ.ค.2563