จากกรณีที่ภาคีนักเรียน KKC และกลุ่มนักเรียนเลว ชวนนร.ให้ใส่ชุดไปรเวทไปเรียนวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนั้น
ต่อมาทางด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @Thanathorn_FWP ระบุว่า “ชื่นชมในความกล้าหาญของนักเรียนที่ใส่ชุดปกติไปโรงเรียนทุกคนในวันนี้ วัฒนธรรมแห่งการกดขี่กำลังถูกทำลายในทุกที่ ช่วยกันห้ามไม่ให้มีใครถูกดำเนินคดี/ถูกไล่ออก หรือถูกลงโทษ เพียงเพราะยืนหยัดต่อสู้ระบอบอำนาจนิยม”
ก่อนหน้านี้ ในปี 62 นายธนาธร จึงรุงเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์แทบลอยด์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 27 ว่าพรรคอนาคตใหม่มีนโยบายเรื่องการศึกษาอย่างไร ? นายธนาธร ตอบว่า ทำลาย disrupt มัน เขย่ามัน ดึงรัฐออกไป ให้ประชาชน กรรมการโรงเรียนตัดสินเอง
“ยกตัวอย่างง่าย ๆ พิธีไหว้ครู เป็นพิธีกรรมที่ล้าหลังมาก เอาพิธีกรรมที่เจ้ายศเจ้าอย่างออกไปทั้งหมด จากระบบการศึกษา ยกตัวอย่าง โรงเรียนไหนอยากจะมีการไหว้ครู ก็เป็นเรื่องของโรงเรียน ไม่ต้องไปบังคับเขา โรงเรียนไหนไม่อยากมีก็ไม่ต้องมี โรงเรียนไหนอยากให้นักเรียนไว้ผมยาวได้หรือจะให้ไว้ผมทรงนักเรียน หรือโรงเรียนไหนอยากให้นักเรียน นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษาหรืออยากจะให้ใส่ชุดอะไรก็ได้มาเรียน ก็ให้เป็นเรื่องของโรงเรียน ต้องเอารัฐออกจากรูปแบบ เนื้อหาของการเรียนอยากสอนอะไรก็สอน ไม่ต้องไปออกแบบวิธีการประเมินจากส่วนกลาง ให้ท้องถิ่นออกแบบตัวเอง”
ล่าสุดนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ชื่นชมนักเรียนใส่ชุดปกติไปโรงเรียน และชี้ว่าวัฒนธรรมการกดขี่กำลังถูกทำลาย ว่าการสวมชุดนักเรียนไปเรียนนั้น เพื่อความประหยัดให้กับผู้ปกครอง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังเป็นการสร้างวินัยให้กับเยาวชน รวมถึงยังเป็นการแสดงตัวตนว่าเป็นนักเรียน
โดยไม่ใช่การกดขี่ แต่เป็นการหวังดี เพราะไม่มีใครที่จะมีแนวคิดไม่ดี กับเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติได้ เว้นแต่คนอย่างนายธนาธร ที่มองว่าเป็นการกดขี่ และนายธนาธรยังเป็นคนที่ไม่รู้จักคำว่ากฎระเบียบ วินัย เพราะชอบทำตัวแหกกฎระเบียบ แหกวินัย รวมถึงกฎหมายที่มีอยู่ก็ไม่เคยยอมรับ
การที่นายธนาธร ออกมาชื่นชมพฤติกรรมเช่นนี้ไม่จริงใจกับเยาวชน เหมือนเป็นการพูดเอาใจเยาวชน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการใส่ชุดปกติไปเรียนนั้นผิดระเบียบ วินัยโรงเรียน แต่ก็เพราะว่านายธนาธรอยู่ในสถานะที่เป็นอีแอบ และเกาะหลังเยาวชนอยู่ นายธนาธร ควรแนะนำเยาวชนในเรื่องที่ถูกต้อง สร้างสรรค์ และไม่ควรใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนเอง ควรสงสารผู้ปกครอง และเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติบ้าง ให้เยาวชนได้มีอนาคตที่ดี โดยไม่โตมาแล้วเป็นคนเหมือนนายธนาธร เพราะหากประเทศมีคนแบบนายธนาธรรับรองประเทศเกิดความเสียหายล่มจมอย่างหนักแน่นอน
“อย่าพยายามทำตัวเป็นคนหนักแผ่นดินมากขึ้นทุกวัน อย่าทำให้คนไทยหมดความอดทนไปมากกว่านี้ จิตสำนึกความรับผิดชอบต่อแผ่นดินไม่มีเลยสักนิด น่าละละอายแทนเด็กที่สุด ที่พยายามเกาะกระโปงเด็กหากินทางการเมืองตลอดมา”