ผลสำรวจแนวโน้มชาวนิวยอร์ก พบเกือบ 1 ใน 4 จะไม่ต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19

1925

มีรายงานเปิดเผยจากสำนักข่าวซินหัวรายงาน ระบุข้อมูลจากผลการสำรวจชิ้นหนึ่งระบุว่า ประชาชนในรัฐนิวยอร์กเกือบ 1 ใน 4 บอกว่าพวกเขามีแนวโน้มจะไม่ไปฉีดวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เมื่อวัคซีนถูกผลิตออกมา

จากผลสำรวจดังกล่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) โดยสถาบันวิจัยวิทยาลัยเซียนา (SCRI) พบว่า ร้อยละ 24 ของผู้เข้าร่วมการสำรวจในรัฐนิวยอร์กบอกว่าตนอาจจะไม่ฉีด หรือไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แน่นอน หลังวัคซีนผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA)

ขณะเดียวกันผลสำรวจยังเผยว่า ประชาชนร้อยละ 35 บอกว่าตนจะฉีดวัคซีนโควิด-19 แน่นอน และร้อยละ 34 บอกว่าอาจจะฉีด


จนถึงช่วงเช้าวันพุธ (25 พ.ย.) ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ (John Hopkins University) รายงานสถิติของรัฐนิวยอร์กที่มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้ว 34,362 ราย ทำสถิติสูงสุดในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วประเทศได้ทะยานสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 170,000 รายต่อวัน ถือเป็นตัวเลขที่ไม่มีแนวโน้มจะลดลงเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามตอนนี้พบยอดผู้ติดเชื้อ 12.8 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 2 แสนรายแล้ว หากประชาชนจำนวนมากยังดึงดันที่จะไม่ยอมรับวัคซีนโควิด-19 อาจจะส่งผลกระทบบานปลายต่อสหรัฐฯมากกว่านี้