เจ้าหน้าที่สธ. เร่งตรวจสอบคัดกรองในโซน 4 ศูนย์ผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม จ.ตาก หลังพบชายชาวเมียนมาวัย 48 ปี ติดโควิดฯ
ส่วนนักเรียนหญิงไทยวัย 17 ปีที่ติดเชื้อในพม่า พบไทม์ไลน์ หลบข้ามแดนมาตรวจที่รพ.เอกชนในแม่สอด
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า หลังจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและ ศอฉ. แจ้งผลการรายงานการติดเชื้อประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อ จำนวน 2 รายในพื้นที่จังหวัดตาก รายแรก เป็นชายชาวเมียนมา อาศัยอยู่ในศูนย์ผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก วัย 48 ปี ติดเชื้อโควิด จากการลักลอบเดินทางไปประเทศเมียนมากลับมาติดเชื้อโควิด
ส่วนอีกราย เป็นนักเรียนหญิงชาวไทย ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ท่าสองยาง มีเพียงรายงานสั้นๆ ว่า ข้ามมาจากประเทศเมียนมาที่ชายแดนแม่สอด ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องชวนฉงนสงสัย เนื่องจากชายแดนไทย-เมียนมา ปิด ไม่ให้คนเข้า แล้วข้ามมาได้อย่างไร
สำหรับไทม์ไลน์ของนักเรียนหญิงวัย 17 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้ จากแหล่งข่าวทราบว่า วันที่ 16 พ.ย.ป่วยเป็นไข้ เจ็บคอ ไปรักษาที่ รพ.ไล่ปวย ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา หมอให้ยากลับมารักษาตัวที่บ้านฝั่งเมียนมา อาการไม่ดีขึ้น
วันที่ 20 พ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. มีรถกระบะสีขาวไปรับที่ริมแม่น้ำเมยจากฝั่งชายแดนไทย ที่บ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด โดยรถกระบะขับเข้ามายังตัวเมืองแม่สอด นำผู้ป่วยรายนี้ไปตรวจยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นผู้ป่วยถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแม่สอดทันที ทำการเพาะเชื้อพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถูกนำตัวเข้าห้องความดันลบโรงพยาบาลแม่สอด
ขณะที่ผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงในเมียนมา มียาย น้องสาว 2 คน น้าสาวและน้าเขย ส่วนผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงในไทย มีมารดา และญาติ รอผลตรวจ ขณะนี้อยู่ใน local quarantine รวมทั้งเจ้าหน้าที่ รพ.เอกชน 3 รายรอผลตรวจ เข้ากักตัวแล้ว ส่วนคนขับรถกำลังติดตามตัว นอกจากนี้ มีผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ เป็นเจ้าหน้าที่ รพ.เอกชน จำนวน 7 ราย รอผลตรวจ และเข้ากักตัวแล้ว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปูพรมตรวจคัดกรองพื้นที่โซน 4 ภายในศูนย์ผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ ซึ่งผู้ป่วยอายุ 48 ปี พักอยู่ มีการตรวจคัดกรองจำนวน 950 ราย โดยภายในศูนย์ฯ นี้ มีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชาวเมียนมาอาศัยกว่า 9,500 คน
ทั้งนี้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีนักเรียนหญิงลูกครึ่งไทยเมียนมาที่ติดเชื้อ แต่ไม่ได้อยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ ว่า อาการป่วยดีขึ้นจาการดูผลเอ็กเรย์ปอดไม่พบร่องรอยของโรคแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเบื้องต้นใกล้ชิดยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยคาดว่าน่าจะติดมาจากญาติที่เมียนมา
