จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแถลงการณ์ ว่า เป็นการเตือนประชาชนให้รับทราบว่ารัฐบาลจำเป็นใช้กฎหมายทุกฉบับ ซึ่งที่ผ่านอาจมีการอะลุ้มอล่วยกันบ้าง แต่ขณะนี้เกินเลยไปมากแล้ว
“จึงคิดว่าสิ่งที่ตนรับมาจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เขายอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ ดังนั้นเราต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่และเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ต้องทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว
ดังนั้น ใครที่ไม่ทำความผิดก็ไม่น่าจะเดือดร้อนแต่คนที่ดูอยู่เขาก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในกฎหมายฉบับนี้มาจำนวนมาก จึงต้องฟังเขาด้วยไม่ใช่ฟังข้างใดข้างหนึ่ง ดังนั้นทุกคนต้องกลับมาในเส้นทางปกติดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม วันนี้การบริหารราชการแผ่นดินก็กำลังเดินหน้าเรื่องเศรษฐกิจระดับฐานรากที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อถามว่า จะมีการใช้มาตรา 112 ด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า “ทำไม ก็เป็นกฎหมายทุกฉบับ สื่อเข้าใจคำว่ากฎหมายทุกฉบับหรือไม่ เข้าใจภาษาไทยหรือไม่ แปลภาษาไทยกันสิคำว่ากฎหมายทุกฉบับ”
เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงมาตรา 112 ด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำซ้ำๆว่า ทุกฉบับ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการ เพราะเป็นความคิดเห็นของประชาชนจำนวนมาก ประชาชนทั้งประเทศที่รับไม่ได้ ทำไมสื่อไม่ไปขยายความกับคนที่ทำความดีบ้าง
“มีคนไปสาดสีโน้นนี่ แต่วันนี้มีเด็กนักเรียน มีประชาชนต้องมาคอยลบและล้างสี ทำไมไม่พูดถึงคนเหล่านี้บ้าง แต่ไปให้ความสำคัญกับคนที่สร้างความสงบเรียบร้อย ทำความผิด ละเมิดสถาบันฯ ผมว่าไม่ถูก สื่อให้ความสำคัญอย่างนี้ไม่ถูก คนดีๆ เขาทำตั้งเยอะแยะ มันควรจะต้องให้เขามาทำไหมทำลายสิ่งของทางราชการ ละเมิดสถาบันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมคนหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 โพสต์ข้อความระบุ “นายกฯ อาจจะลาออกก่อนวันที่ 25 พ.ย.” ว่า ที่มีข่าวว่าตนจะลาออกก่อนวันที่ 25 พ.ย.ก็ลองไปถามคนพูดดูว่าเอาข้อมูลจากไหน ตนไม่เคยติดต่อกับเขา และทราบว่าจะมีการชุมนุม 25 พ.ย.นี้
“ดังนั้น คิดว่าคงพูดเพื่อหวังระดมมวลชนและประชาชนให้มากขึ้นหรือไม่ และคิดว่าคนที่พูดเรื่องแบบนี้พูดไม่ตรง พูดโดยไม่มีข้อมูลแบบนี้ เราจะเชื่อถือได้อีกต่อไปหรือไม่ ตนคงตอบได้เท่านี้” นายกฯ กล่าว