รัฐบาลเวียดนามขู่ปิดเฟสบุ๊ค?!? หากไม่เซนเซอร์ข้อมูลเนื้อหาการเมืองแพร่รุนแรงต่อต้านรัฐบาล

2487

ทางการรัฐบาลเวียดนามเอาจริง จะลงดาบ “ปิดเฟสบุ๊คในประเทศ” หากไม่ยอมปิด URL และเนื้อหารุนแรง ต่อต้านรัฐบาล เฟสบุ๊คโอดทำดีที่สุดแล้ว แต่ยังยืนยันจุดยืนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้งาน ยังหวังว่าจะเอาตัวรอดได้ เพราะโดนมาหลายรัฐบาลทั่วโลกก็ยังหลีกเลี่ยงได้สำเร็จ  จับตารบ.เวียดนามพยายามเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียของชาติอยู่  แม้ว่าจะยังไม่ได้รับความนิยมในประเทศก็ตาม เพราะเห็นภัยร้ายจากเครื่องมือสื่อตะวันตก จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม

สำนักข่าวรอยเตอร์,ซีเอ็นบีซี รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอ้างแหล่งข่าวอาวุโสของเฟสบุ๊คว่า  แม้บริษ้ทสื่อส้งคมออนไลน์แห่งนี้จะยินยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลเวียดนาม ที่ขอมาในเดือนเมษายน ให้เพิ่มการเซนเซอร์โพสต์หรือลบข้อความตลอดจน URL ที่ต่อต้านรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใช้งานในประเทศเห็น ทั้งนี้เราได้ทำไปแล้ว ต่อมาทางการได้ส่งข้อเรียกร้องดังกล่าวมาอีกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ให้เฟสบุ๊คยกระดับการจำกัดโพสต์ต่างๆ ที่วิจารณ์รัฐบาลด้วย

เจ้าหน้าที่รายนี้ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้กล่าวว่า เพสบุ๊คตกลงที่จะทำตามสิ่งที่ขอมาไปแล้วและปฏิเสธข้อเรียกร้องใหม่ครั้งนี้ แม้รัฐบาลจะขู่สั่งปิดบริการทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของบริษัท  ด้วยตัวเลขผู้ใช้งาน 60 ล้านคนและมูลค่ารายได้เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้เฟสบุ๊คต้องเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลหลายประเทศ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของตน  และได้รับคำขู่ทั้งเรืาอง การออกกฏเกณฑ์ใหม่ๆ และการสั่งปรับ แต่ทางบริษัทสามาถที่จะหลีกเลี่ยงการถูกสั่งระงับการให้บริการมาได้หลายครั้ง

ทำธุรกิจในเวียดนามต้องเคารพกฎหมายเวียดนาม

ถึงแม้ว่า รัฐบาลเวียดนามจะมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่และการเปิดสังคมข่าวสารให้มีเสรีมากขึน แต่กฎหมายภายใต้การกำกับของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยังคงเข้มงวดกับสื่อสารมวลชนทุกชนิดที่มีแนวโน้มวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้านรัฐบาล จัดเป็นประเทศอันดับ 5 รองบ๊วยที่องค์กร “สื่อมวลชนไร้พรมแดน”จัดลำดับไว้ (the Reporters Without Borders)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า “เฟสบุ๊คต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศเวียดนาม และควบคุม การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่สร้างความขัดแย้งในสังคม ทำลายวัฒนธรรมประเพณีจองคนเวียดนามและต่อต้านรัฐบาลเวียดนาม”