พปชร.ยัน รับร่างรธน.ฉบับ 1-2 ปัดฉบับไอลอว์ ขออย่าตั้งธงข่มขู่กันจนทั้ง 2 ฝ่ายรับไม่ได้!?!

2293

พปชร.ยันรับร่างรธน.ฉบับ 1-2 ปัดฉบับไอลอว์รอฟังสภาฯ เหตุมีรายละเอียดมาก ขออย่าตั้งธงข่มขู่กันจนทั้ง 2 ฝ่ายรับไม่ได้ เชื่อม็อบไม่รุนแรง แค่กดดันเชิงสัญลักษณ์

จากกรณีที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันนี้ (17 พฤศจิกายน 2563) ของกลุ่มคณะราษฎร บริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อเฝ้าเกาะติดสถานการณ์การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 -18 พฤศจิกายนนี้ มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาว่าจะไม่หรือไม่รับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจำนวน 7 ฉบับ

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.เวลา 08.37 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้วตามที่พรรคยืนยันไว้ ซึ่งตนคิดว่าตรงนี้คงจะเรียบร้อยดี ส่วนจะเป็นฉบับไหน อย่างไรก็คงต้องไปว่ากันในสภาฯ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญร่างที่ 1 และร่างที่ 2 แนวโน้มพรรคพปชร.จะเห็นชอบหรือไม่นั้น ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะรับร่าง 1 และร่าง 2

เมื่อถามว่าส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับของไอลอว์ชัดเจนแล้วหรือไม่ว่าจะไม่รับ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องไปฟังในสภาฯถึงเหตุและผลของสภาฯว่าใครมีเหตุ มีผลอย่างไร และมีผลไปในภายหน้าตรงไหนอย่างไร ตรงนั้นก็คงต้องไปหาเหตุผลมาว่ากัน เพราะร่างของไอลอว์ไม่เคยเข้าที่ประชุมสภาฯ ฉะนั้นรายละเอียดหรือแง่มุมต่างๆที่ต้องอภิปรายคงมีมากพอสมควร ที่ต้องถกเถียงกัน

เมื่อถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามกดดันให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ เนื่องจากเป็นร่างของประชาชน นายอนุชา กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาของกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเขามีธงไว้อยู่แล้วว่าบ้านเมืองจะต้องไปทางไหน ตรงนี้เป็นธงของทั้งฝ่ายค้านด้วย เราก็เห็นอยู่ว่าฝ่ายค้านพยายามพูดแบบมีธง ทุกครั้งที่มีการพูดคุยก็ไม่ได้จบอย่างที่มีการพูดคุย คิดว่าเป็นเรื่องปกติ 2 ฝ่ายที่ความเห็นไม่ตรงกัน ฉะนั้นธงของแต่ละฝ่ายอาจจะไม่ตรงกัน แต่ด้วยเหตุด้วยผลต้องมาว่ากัน ซึ่งการตั้งธงมาเป็นการที่ไม่ชอบตามระบอบ คือการมาบังคับข่มขู่ ขู่เข็นกัน ตนคิดว่าไม่ใช่ในระบอบที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นอย่างนี้กันไปตลอด ทุกนายกฯ ทุกรัฐบาลก็คงเป็นอย่างนี้ไปตลอดไม่มีวันสิ้นสุด ประเทศต้องวนเวียนในระบอบที่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น วิงวอนขออย่าตั้งธงที่เกินเลยที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะรับกันไม่ได้ เพราะความคิดเห็นต้องมีทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแล้วมาบอกว่าจะต้องไปตามนั้น เมื่อมีทั้ง 2 ฝ่าย พูดคุยหาจุดต่างที่ลงตัวร่วมกันบ้านเมืองเดินไปได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลประเมินการชุมนุมของทั้ง 2 ที่หน้ารัฐสภาจะเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ก็เรียบร้อยมาโดยตลอด คงไม่มีอะไรที่รุนแรงเป็นการกดดันเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้ได้ตามจุดมุ่งหมายที่ฝั่งตนเองต้องการ ถือว่าเป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามหาวิธีที่นุ่มนวล อะลุ่มอล่วย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อยากให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมอย่างสันติไม่มีการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งทุกฝ่ายคงหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง และชาชนทั้งประเทศอยากเห็นคงามสงบสุข ตนเองก็ไม่อยากเห็นตรงนั้น อย่างไรก็ตาม ส.ส.และส.ว.ก็ต้องพยายามเข้าไปสภาฯ เพื่อทำหน้าที่เพราะประชาชนรออยู่.