ในการประชุมองค์การอนามัยโลก(WHO) โดยดร.ทีโดรส (Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus) กล่าวชื่นชมประเทศไทย ในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม แม้ยังไม่มีวัคซีน ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและประชาสังคมโดยมีการดำเนินงานอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมปัญหา ทั้งนี้ได้แนะนำประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก นำไปเป็นแบบอย่างปฏิบัติ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจในคุณความดีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของรัฐบาล ประชาชนและภาคประชาสังคมไทย ก่อนหน้านี้ได้จัดทำและเผยแพร่วีดิโอ บทเรียนความสำเร็จของไทยเผยแพร่ไปทั่วโลกมาแล้ว
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกได้กล่าวในพิธีปิดการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 73 (World Health Assembly 2020) โดยขอบคุณประเทศไทยที่สนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลก และชื่นชมประเทศไทยที่เป็นตัวอย่าง ต้นแบบของการประสบความสำเร็จ
เพจ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์และ Drama Addict รายงานถึงกรณี WHOชื่นชมไทยชมไทยรับมือโควิด-19และมาร์เก็ตวอช (Marketwatch:เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลข่าวารและการลงทุนของดาวโจนส์) เผยแพร่ข่าวดีที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ตอกย้ำชื่นชมไทยและเสนอให้ประเทศต่างๆศึกษาบทเรียนการรับมือระบาดโควิด-19 ของไทยที่ประสบความสำเร็จ นำความยินดีมาสู่รัฐบาลและประชาชนไทยอย่างมาก เพราะเกียรติภูมิแห่งความสำเร็จนี้ได้มาจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชน ภาครัฐและภาคเอกชนอย่างแท้จริง เมื่อเดือนส.ค.2563 สหประชาชาติก็ได้ชื่นชมมารอบหนึ่งแล้ว
ขอถ่ายทอดตรงจากข้อเขียนในทวิตเตอร์ของดร.ทีโดรสดังนี้:-
ประการแรก, ผมขอกล่าวขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อท่านนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา สำหรับการแสดงความสนับสนุนต่อองค์การอนามัยโลก(WHO)
“First of all, I would like to convey my deep appreciation to His Excellency the Prime Minister Prayut Chan-o-cha,for his expression of support for WHO”-@DrTedros at the closing of the resumed #WHA73
"First of all, I would like to convey my deep appreciation to His Excellency the Prime Minister Prayut Chan-o-cha,for his expression of support for WHO"-@DrTedros at the closing of the resumed #WHA73 pic.twitter.com/nrFP39RmcE
— World Health Organization (WHO) (@WHO) November 13, 2020
ประเทศไทยเป็นตัวอย่างชั้นเลศที่ว่า ด้วยการมีรัฐบาลโดยรวมทั้งหมด, มีสังคมโดยรวมทั้งหมด, มีการปฏิบัติงานอย่างครอบคลุมกว้างขวาง, ทำให้ไวรัสตัวนี้สามารถควบคุมได้แม้ปราศจากวัคซีน
“#Thailand is an excellent example that with a whole-of-government, whole-of-soc”iety, comprehensive approach, this virus can be contained – even without a vaccine”-@DrTedros #COVID19 #WHA73
คนไทยทั้งหลายล้วนพูดและทำเพื่อชีวิตของเขา(ปกป้องตนเอง:ผู้เขียน) ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศแรกนอกประเทศจีนที่พบคนป่วยติดเชื้อโควิด-19 แต่รายงานกลับพบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อน้อยกว่า 4,000 ราย และเสียชีวิตแค่ 60 ราย ในประชากร 70 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่ที่สุด,มีคนหนาแน่นที่สุดเมืองหนึ่งของโลก
“#Thailand’s numbers speak for themselves. Although it was the first country outside #China to report a case of #COVID19, it has reported less than 4000 cases & just 60 deaths, with a population of 70 million & one of the world’s largest & most crowded cities”-@DrTedros #WHA73
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ สี่สิบปีมาแล้วที่ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นลงทุนด้านโครงสร้างกิจการสาธารณสุขและดำเนินการตามกฎระเบียบสาธารณสุขอย่างจริงจัง
“This is no accident. Forty years ago, #Thailand made a commitment to investing in its public health infrastructure, and to implementing the International Health Regulations”-@DrTedros #WHA73
เครือข่ายทั่วประเทศจำนวน 1 ล้านคนจากอาสาสมัครหมู่บ้าน (อ.ส.ม.:ผู้เขียน) ผู้ซึ่งเป็นเสมือนดวงตา,หูของระบบสุขภาพชุมชน เป็นผู้แสดงบทบาทสำคัญในการรับมือกับการติดเชื้อโควิด-19
“The country’s network of 1M+ village health volunteers, who are the eyes & ears of the health system in communities, played a critical role in the #COVID19 response.
ประเทศไทยเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต รวมทั้งประสบการณ์รับมือกับโรค “ซาร์”ในปี 2003
has also learned the lessons of the past, including its experience with SARS in 2003″-@DrTedros #WHA73
ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้คือ ดร.ทีโดรสชี้เปรี้ยงให้ประเทศต่างๆนำวิธีของไทยไปใช้รับมือการระบาดโควิด-19
“ผมขอให้ทุกประเทศเดินตามแนวทางประเทศไทย ไม่มีประเทศใดสามารถบอกได้ว่าได้ทำการเตรียมการรับมิอกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ หรือจะกล่าวว่ามันไม่มีบทเรียนให้ศึกษา การระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้เป็นแสงไฟส่องปัญหาเรื้อรัง ของการไม่ลงทุนในด้านสาธารณสุขและ การเผาผลาญระบบเศรษฐกิจและทำร้ายชีวิตผู้คนนับพันล้านชีวิต”
“ประการแรก ให้รู้สถานการณ์แพร่ระบาดอย่างแท้จริงและทำในสิ่งที่ดีก่อนเป็นพื้นฐานโดย ค้นหา, แยกคนป่วย, ทดสอบเชื้อและดูแลผู้ป่วย การตรวจเชื้อและกักตัวไม่ให้เชื่อมโยงผู้อื่นในระยะเวลาหนึ่ง และประการที่สอง รวมมือและรวมพลังชุมชนเพื่อปกป้องตนเองและตรวจสอบเชื้ออย่างเต็มที่: รักษาระยะห่าง, ไม่รวมกลุ่มขนาดใหญ่, อยู่ในที่ระบายอากาศ, ล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย” ดร.ทีโดรสกล่าวในที่สุด