พันธมิตรออสเตรเลีย-ญี่ปุ่น!?!จ่อลงนามความตกลงฝึกการทหาร เดินหน้ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกต้านจีน

2144

ญี่ปุ่นและออสเตรเลียจ่อลงนามความตกลงด้านการฝึกทหาร กระชับสัมพันธ์กลุ่มพันธมิตรQUAD ภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกต้านอิทธิพลจีน ขณะเดียวกันได้ลงนามข้อตกลงกับอาเซียนด้านการค้า-การลงทุน-ความมั่นคง ทั้งนี้ประเทศไทยและอาเซียนดำรงบทบาทเสริมสร้างสัมพันธ์ทั้งจีนและกลุ่มพันธมิตรต่อต้านจีนนำโดยสหรัฐอย่างเหมาะสม  ด้วยท่าทีเช่นนี้ทำให้มหาอำนาจโลกที่กำลังช่วงชิงความเป็นใหญ่  ไม่อาจมีข้ออ้างแทรกแซงอย่างเปิดเผยและก้าวร้าวได้เพราะไม่ชอบธรรม  บทพิสูจน์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของอาเซียนบนความหลากหลายด้วยความเคารพและมิตรไมตรี เป็นทางเลือกของวิถีตะวันออก ไม่ใช่วิถีตะวันตกเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวอย่างที่เคยเป็นมา โลกกำลังเปลี่ยน-ลมตะวันออกแรง

พันธมิตรQUAD กระชับแนวรบด้านการฝึกทหาร
สนข.นิเกอิเอเซีย รายงาน: เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ญี่ปุ่นเตรียมลงนามความตกลงด้านการฝึกทหารร่วมกับออสเตรเลีย ในช่วงการเยือนญี่ปุ่นของนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียระหว่าง 17 – 18 พ.ย.2563 โดยความตกลงดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกด้านการฝึกทางทหารแก่กำลังพลในกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น และกองทัพออสเตรเลีย 

ทั้งสองฝ่ายคาดหวังให้ความตกลงดังกล่าวช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางทหาร ส่งเสริมความเข้มแข็งของกลุ่ม QUAD และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการสกัดกั้นการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค โอกาสนี้ นายมอร์ริสันจะพบหารือกับนายสึกะ โยชิฮิเดะ นรม.ญี่ปุ่นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า และการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยนายมอร์ริสันจะเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่พบนรม.สึกะ หลังจากที่นายสึกะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนรม.ญี่ปุ่น 
ต่อจากนั้นนายมอร์ริสันจะเดินทางเยือนปาปัวนิวกินีใน 18 พ.ย.63

หน้าฉากการลงทุนการค้าแถมความมั่นคงทางทะเล 
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ทำเนียบรัฐบาล: พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ได้เข้าร่วมพิธีลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับออสเตรเลีย (Joint Declaration on the Strategic Partnership between the Kingdom of Thailand and Australia) ผ่านระบบการประชุมทางไกล

นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะได้ร่วมลงนามสนับสนุนการยกระดับความสัมพันธ์ไทยและออสเตรเลียให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อไปสู่มิติใหม่ของ “ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ร่วมกัน และเชื่อมั่นว่าจะใช้โอกาสนี้กระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แนบแน่นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป ทั้งในด้านความมั่นคง การทหาร เศรษฐกิจ ตลอดจนสาขาที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน อาทิ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม การศึกษา สาธารณสุข เกษตร และสิ่งแวดล้อม

ภายหลังการลงนามในปฏิญญาร่วมฯ หน่วยงานต่าง ๆ ของไทยและออสเตรเลียจะร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Plan of Action) เพื่อเป็นกรอบแผนงานในการส่งเสริมและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป