สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน มีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องเกือบทุกวัน ซึ่งสถานที่นัดชุมนุมส่วนใหญ่มักจะเป็นตามแยกหรือถนนที่สำคัญ หรือเป็นสายหลักของกรุงเทพฯ
และเวลาในการจัดการชุมนุมมักจะเป็นเวลา 16.00-22.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่โดยปกติแล้วมีการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว การชุมนุมบนถนนสายหลักและช่วงเวลาดังกล่าวจึงส่งผลกระทบกับคนหลายกลุ่มในวงกว้าง
ล่าสุด วันที่ 7 พ.ย.63 นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการชุมนุมของม็อบคณะราษฎรในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ว่า ถ้าจะชุมนุมก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเราก็เคยชุมนุมกันมา แต่สิ่งที่ต้องคิดตลอด คือ คนที่ชุมนุมนั้นจะมีฝ่ายหนึ่งคิดว่าคุณทำอะไร และอีกฝ่ายคิดว่าจะต้องทำอะไร
แต่ประชาชนคนกลางๆ ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเริ่มทนต่อการชุมนุมไม่ไหว เพราะการไปปิดสถานที่โน้นนี้ไปเรื่อยๆ พ่อค้า แม่ค้า คนทำงานและคนอาศัยในย่านนั้นๆ ได้รับผลกระทบ ทั้งการค้าขาย หรือเดินทางไปมาไม่ได้บ่อย ๆ
“เช่น ย่านราชประสงค์ปิดครั้ง สองครั้งอาจไม่เป็นไร แต่เมื่อได้รับความเดือดร้อนบ่อยๆหรือเดือดร้อนมาก ก็จะลุกขึ้นมาปิดคุณบ้างก็จะกลายเป็นความเกลียดชังจากคนส่วนใหญ่ที่เขาเดือดร้อนเพราะเรา ดังนั้นสิ่งนี้จึงต้องระวัง และเมื่อมีความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้ขึ้น ก็จะแห่เข้าร่วมกับอีกพวกนึง เปรียบเหมือนกรณีที่มีใครเอารถมาจอดขวางหน้าบ้านคุณทุกวัน แล้วคุณออกจากบ้านไม่ได้ก็ต้องมีสักวันที่คุณก็จะขับรถชนรถคันนั้น”นายวัลลภ กล่าว