รฟม.เคาะแล้ว?!? ประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตกมูลค่า1.4 แสนล้านบาทไปต่อ กำหนดเอกชนยื่นซอง 9 พ.ย.นี้

2120

รฟม.ได้ยื่นอุทธรณ์เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองกรณีปรับเกณฑ์ประมูลสายสีส้มในวันที่ 2 พ.ย.2563 หลังการประชุมคณะกรรมการ ม.36 วันที่ 4 พ.ย.2563 ได้ประกาศให้เอกชนยื่นซองวันที่ 9 พ.ย.2563 อ้างคำสั่งศาลให้ทุเลาเกณฑ์ใหม่ไม่ได้ห้ามยื่นซอง ทั้งนี้ได้วางแนวทางรองรับกรณีให้ยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง และหรือยกเลิกประมูลร่าง TOR ใหม่  รฟม.มั่นใจว่าสามารถคัดเลือกและลงนามดำเนินการได้อย่างช้าที่สุดใน ก.ย. 2564 โดยไม่กระทบเปิดด้านตะวันออกศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี มี.ค. 67 

จากที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 19  ต.ค.2563  คุ้มครองชั่วคราว ให้ รฟม.ทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ที่ให้ใช้การประเมินซองที่ 2 ข้อเสนอทางเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมกันแล้วแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คณะกรรมการ มาตรา 36 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 ได้มีการประชุมกันวันนี้้(4 พ.ย.)เพื่อเตรียมแนวทางในการดำเนินการประกวดราคาตามประกาศที่ได้ขยายเวลาในการรับเอกสารประกวดราคา กำหนดยื่นซองประกวดเป็นวันที่ 9 พ.ย. 2563 นี้

เบื้องต้น รฟม.ได้มีการจัดทำกรอบแนวทางในการดำเนินการ กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งก่อนวันที่ 9 พ.ย.นี้ ซึ่งประเมินไว้ 3 กรณี ได้แก่ 

  1. กรณีศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง รฟม.โดยคณะกรรมการมาตรา 36 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 จะรับซองวันที่ 9 พ.ย. 63 จากนั้นจะประชุมเพื่อกำหนดเกณฑ์ และเปิดซองด้านคุณสมบัติ (ซอง 1) วันที่ 23 พ.ย. 63 ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ และเปิดซองด้านเทคนิค (ซอง 2) และซองข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน (ซอง 3) ประเมินข้อเสนอ สรุปประมาณปลายเดือน ธ.ค. 63 เพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุด คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 64 และลงนามสัญญาในต้นเดือน มี.ค. 64 
  2. กรณีศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง และ รฟม.เดินหน้าการประมูลต่อ โดยรับซองวันที่ 9 พ.ย. 63 ตามกำหนดนั้น รฟม.จะต้องออก RFP Addendum ยกเลิกปรับปรุงวิธีการประเมินก่อนรับซองก่อน ขณะที่กรอบเวลา การพิจารณายังเป็นไปตามกำหนดเดิม โดยเปิดซองที่ 1 วันที่ 23 พ.ย. 63 ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ จากนั้นเปิดซองที่ 2 ประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค และเปิดซองที่ 3 ประเมิน ข้อเสนอการลงทุนและผลตอบแทน  จะเร่งรัดเพื่อสรุปผลให้ได้ในเดือน ม.ค. 64 เพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุด คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 64 และลงนามสัญญาภายใน มี.ค. 64  
  3. กรณีศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง และ รฟม.ยกเลิกการประมูลโดยจะออกประกาศยกเลิกประกาศเชิญชวนก่อนวันที่ 9 พ.ย. 63 และเริ่มขั้นตอนการจัดทำร่างข้อเสนอการร่วมลงทุน (RFP)​ ใหม่เสร็จใน ก.พ. 64 ขายเอกสารเดือน ก.พ.-มี.ค. 64 ยื่นซองประมูลเดือน พ.ค. 64 สรุปผลประมูลเดือน ก.ค. 64 ลงนามสัญญาได้ในเดือน ก.ย. 64 ทั้งนี้ แผนงานนี้จะต้องมีการเร่งรัดกรอบการทำงานทุกขั้นตอนเพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า 

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ส่วน ได้แก่ งานโยธา สายสีส้มด้านตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ระยะทาง 22.5 กม. เป็นโครงสร้างใต้ดิน 13.6 กม. โครงสร้างยกระดับ 8.9 กม. มี 17 สถานี กรองวงเงินรวม 82,907 ล้านบาท ปัจจุบันงานก่อสร้างมีความก้าวหน้า 70% 

สายสีส้ม ด้านตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ งานโยธา ระยะทาง 13.4 กม. เป็นโครงสร้างใต้ดินตลอดสาย มี 11 สถานี กรอบวงเงินรวม 96,012 ล้านบาท และการจัดหา ติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ และการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กรอบวงเงินลงทุน 32,116 ล้านบาท โดย รฟม.เปิดประมูล PPP ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนออกและก่อสร้างงานโยธา ด้านตะวันตก และจัดหาระบบรถไฟฟ้า และเดินรถตลอดสาย โดยรัฐสนับสนุนค่างานโยธาตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น  

ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการ 2 ส่วน โดยส่วนตะวันออกภายในเดือน มี.ค. 2567 และส่วนตะวันตก (ครบตลอดสาย) ในเดือน ก.ย. 2569 

ขณะที่หลายฝ่ายฝากความหวังไว้ว่าการลงทุนของรัฐในโครงการเมกะโปรเจกท์ทั้งหลายจะเป็นพระเอกมาช่วยประคองเศรษฐกิจไทยไม่ให้ทรุดหนักไปกว่านี้ แต่เอาเข้าจริงในแต่ละโครงการลงทุนกลับมีประเด็นก็ไม่ชอบมาพากล ทำให้โครงการนั้นๆต้องมีอัน“ติดหล่ม”ทำให้การลงทุนไม่เกิดขึ้นตามแผนงาน เม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็ติดค้างเติ่งไปด้วย โครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ก็เป็นหนึ่งที่เริ่มมีเสียงครหา คงต้องจับตาผลสรุปในที่สุดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป!